หุ้นไทยปิดตลาด + 0.13 จุด นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวสลับขึ้นลงตลอดทั้งวัน หลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาด แม้มีตัวเลข PCE ของสหรัฐฯ ออกมาชะลอตัวลง ช่วยให้ตลาดผ่อนคลาย ส่งผลเชิงบวกต่อเฟดเบรกขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้บ้าง แต่ไม่สามารถต้านทานแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่เฉพาะตัวที่เข้ากดดันดัชนี เช่น AOT, PTTEP และ DELTA มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวต้านที่ 1,390-1,400 จุด และแนวรับที่ 1,360-1,370 จุด แนะติดตามปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 1 ธ.ค.2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.13 จุด หรือ +0.01% โดยปิดตลาดที่ 1,380.31 จุด มูลค่าซื้อขาย 37,615.16 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายวันนี้หุ้นไทยปรับตัวเคลื่อนไหวสลับทั้งแดนบวกและลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,384.13 จุด ในทิศทางขาลงกลับกันที่ปรับตัวต่ำสุด 1,374.06 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 235 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 198 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 214 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +984.53 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -266.24 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -501.50 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -216.80 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,224.53 ล้านบาท ปิดที่ 58.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,183.20 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,821.90 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
4.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,454.29 ล้านบาท ปิดที่ 53.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
5.HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,168.19 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KCE ปิดที่54.50บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 3.81%
2.HANA ปิดที่46.75บาท เพิ่มขึ้น 2.00บาท หรือ 4.47%
3.KBANK ปิดที่129.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 1.17%
4.GPSC ปิดที่ 46.75บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 2.75%
5.CPALL ปิดที่53.25บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.40%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่148.50บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 1.98%
2.EGCO ปิดที่127.00บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 1.55%
3.BHปิดที่221.00 บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 0.90%
4.RATCH ปิดที่ 31.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 3.85%
5.AOT ปิดที่58.50บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.68%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,890.08 จุด เพิ่มขึ้น 1.14 จุด หรือ 0.06% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 852.94 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 397.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.40 จุด หรือ 0.86%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยยังไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาด แม้ว่าจะมีปัจจัยหนุนจากฝั่งสหรัฐฯ หลังตัวเลข PCE ออกมาชะลอตัวลง ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยุติการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งหนุนต่อ Sentiment กับตลาดหุ้น แต่ตลาดรับข่าวไปมากแล้ว
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้รับแรงกดดันเฉพาะตัว กดดันดัชนี เช่น AOT, PTTEP และ DELTA เป็นต้น ทำให้ดัชนียังถูกกดดัน และแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ยังต้องติดตามปัจจัยภายในประเทศ รวมถึงปัจจัยต่างประเทศ โดยให้แนวต้าน 1,390-1,400 จุด แนวรับ 1,360-1,370 จุด