หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -7.51 จุด นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเจอแรงเทขายหุ้น Big cap และหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังกระแสการปรับอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ที่ 4.68 บาท/หน่วย ทำให้อาจกระทบผลประกอบการ หลังแนวโน้มก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนส่วนมาก ทำให้ "เศรษฐา" นายกออกให้ความเห็นว่าราคาแพงเกินไป และมีสิทธิ์ถูกปรับลงต่ำกว่านี้ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,390 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 30 พ.ย. 2566 ปรับตัวลดลง -7.51 จุด หรือ 0.54% โดยปิดตลาดที่ 1,380.18 จุด มูลค่าซื้อขาย 76,183.57 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,390.04 จุด ในทิศทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,371.74 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 125 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 147 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 374 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,704.82 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -370.43 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3,806.46 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อ สุทธิกว่า +268.79 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 4,490.25 ล้านบาท ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,508.48 ล้านบาท ปิดที่ 59.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.RATCH มูลค่าการซื้อขาย 3,063.02 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,961.05 ล้านบาท ปิดที่ 128.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,922.73 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 223.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00บาทหรือ 3.24%
2.CPN ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 1.88%
3.DELTA ปิดที่77.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75บาทหรือ 0.97%
4.AOT ปิดที่59.50 บาท เพิ่มขึ้น0.50บาทหรือ 0.85%
5.AMATA ปิดที่ 25.00บาท เพิ่มขึ้น 0.30บาทหรือ 1.21%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่128.00 บาท ลดลง 3.50บาทหรือ 2.66%
2.SCC ปิดที่287.00 บาท ลดลง 3.00บาทหรือ 1.03%
3.RATCH ปิดที่32.50 บาท ลดลง 2.50บาทหรือ 7.14%
4. KKP ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 1.75บาทหรือ 3.54%
5.PTTEP ปิดที่151.50 บาท ลดลง 1.50บาทหรือ 0.98%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,888.94 จุด ลดลง -12.97 จุด หรือ -0.68% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 852.94 จุด ลดลง -4.96 จุด หรือ -0.58% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 394.21 จุด ลดลง -3.82 จุด หรือ -0.96%
นายวทัญ จิตสมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง รับแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากราคาค่าไฟฟ้าที่ 4.68 บาท/หน่วย มีสิทธิ์ถูกปรับลงต่ำกว่านี้ได้อีก ซึ่งยังต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล รวมถึงยังมีแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีน หรือดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ย.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.4 จากระดับ 49.5 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
"วันพรุ่งนี้ลุ้นตลาดฯ ฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง โดยให้ติดตามการประชุมโอเปกพลัสในวันนี้ โดยตลาดคาดจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้น รวมถึงการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมองแนวรับที่ 1,370 จุด และแนวต้านที่ 1,390 จุด" นายวทัญ กล่าวทิ้งท้าย