หุ้นไทยปิดตลาดยังร่วงไม่เลิกปิดตลาด -7.54 จุด นักวิเคราะห์ชี้เกิดแรงเทขายในหุ้นการท่าฯ หรือ AOT ที่เข้ากดดันตลาด หลังกระแสนักท่องเที่ยวจีนไม่เป็นไปตามที่คาด อีกทั้งการขยายเวลาเพื่อช่วยธุรกิจกลุ่ม King Power อาจส่งผลต่อกำไรธุรกิจ ทำให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวลดลงตามไปด้วย ประเมินแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง มองแนวรับที่ 1,400 จุดและแนวต้านที่ 1,420 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 23 พ.ย. 2566 ปรับตัวลดลง - 7.54 จุด หรือ -0.53% โดยปิดตลาดที่ 1,406.61 จุด มูลค่าซื้อขาย 40,407.66 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ในแดนลบตลอดทั้งวันตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายในภาคเช้าจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,415.02 จุด ในทิศทางขาลงกลับกันที่ลดลงต่ำสุด 1,400.48 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 195 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 211 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 236 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -1,715.21 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -548.43 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,744.15 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +519.49 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AOT มูลค่าการซื้อขาย 11,485.09 ล้านบาท ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 3.75 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,197.42 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,121.74 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.COM7 มูลค่าการซื้อขาย 890.27 ล้านบาท ปิดที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 879.05 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EGCO ปิดที่ 130.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.17%
2.JMART ปิดที่ 17.80บาท เพิ่มขึ้น 0.70+ บาท หรือ 4.09%
3.AMATA ปิดที่ 25.50บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 2.82%
4.SJWD ปิดที่ 14.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 4.26%
5.JMT ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.83%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.AOT ปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 3.75 บาท หรือ5.68%
2.CENTEL ปิดที่ 42.75บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.29%
3.BH ปิดที่ 221.00บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.45%
4.THGปิดที่ 62.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 1.58%
5.GPSC ปิดที่ 45.00บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.64%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 1,922.67 จุด ลดลง -13.53 จุด หรือ -0.70% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 867.64 จุด ลดลง -6.95 จุด หรือ -0.79% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 405.60 จุด ลดลง -1.43 จุด หรือ -0.35%
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันหลักจากหุ้น AOT ร่วงไปกว่า 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท นักลงทุนกังวลจำนวนนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าคาด และประเด็นการขยายระยะเวลาชำระค่าผลตอบแทนให้กับกลุ่ม King power อาจกระทบต่อกำไรในงวดปีนี้ ซึ่งการปรับลงของหุ้น AOT ฉุดให้หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับลงตามไปด้วยเกือบทั้งกลุ่ม
"แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์แกว่งออกข้าง ยังไร้ปัจจัยบวกเข้ามาหนุน เนื่องจากคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) นอกจากนี้ปัจจัยภายนอกยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาด้วย โดยมองกรอบการลงทุนแนวรับที่ 1,400 จุดและแนวต้าน 1,420 จุด" นายชาญชัย กล่าวทิ้งท้าย