xs
xsm
sm
md
lg

CPANEL ชี้ต้นทุนผันผวน อสังหาฯ หันใช้ Precast Concrete บริหารโครงการ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



CPANEL เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/66 โตดี เจรจาลูกค้าต่อเนื่อง มุ่งเน้นโครงการโรงแรม-คอนโดฯ เข้าพอร์ต ปัจจัยบวกนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว วีซ่าต่างชาติระยะยาว ดันดีมานด์ที่อยู่อาศัยเพิ่ม อัตราดอกเบี้ยสูง ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่ม แรงงานลด หนุนความต้องการ Precast Concrete ก่อสร้างเร็ว ลดต้นทุน พร้อมชูกลยุทธ์ Green Construction Technology เพิ่มโอกาสรับงาน ด้านผลประกอบการ 9 เดือน 2566 รายได้ 328.46 ล้านบาท กำไรสุทธิ 47.90 ล้านบาท

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 4 ปี 2566 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาลูกค้าต่อเนื่อง ทั้งแนวราบ แนวสูง ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตามหัวเมืองใหญ่ มุ่งเน้นการออกแบบหลากหลาย เช่น โรงแรม คอนโดมิเนียม

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยว และวีซ่าต่างชาติระยะยาว ส่งผลให้ชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงินผันผวน ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่กระจายอยู่ในหลายภูมิภาค ประกอบกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และแรงงานที่ลดลง อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างและกระแสเงินสด ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หันมาใช้ Precast Concrete เนื่องจากสามารถช่วยลดต้นทุน ก่อสร้างได้รวดเร็ว ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น

อีกทั้งบริษัทมุ่งเน้นกลยุทธ์การเป็น Green Construction Technology เช่น การลดคาร์บอนในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง การวางแผนที่จะเปลี่ยนพลังงานเป็น Renewable Energy และเปลี่ยนวัตถุดิบให้เป็นวัสดุลดคาร์บอน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ลูกค้า ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นโอกาสในการรับงานและสร้างการเติบโตให้บริษัทในอนาคต


ทั้งนี้ ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 328.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 316.73 ล้านบาท จำนวน 11.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.70% และมีกำไรสุทธิ 47.90 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียว กันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 48.97 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 (ก.ค.-ก.ย.) บริษัทมีรายได้รวม 103.51 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 13.28 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น