xs
xsm
sm
md
lg

Krungthai GLOBAL MARKETS เผยค่าเงินบาทเปิดที่ระดับ 36.00 ติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เผยค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (3 พ.ย.) ที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.97 บาทต่อดอลลาร์ และมองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.90-36.10 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ และประเมินกรอบเงินบาท 35.80-36.30 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ โดยในช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลงบ้าง (แกว่งตัวในช่วง 35.84-36.03 บาทต่อดอลลาร์) ตามจังหวะการพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ในช่วงตลาดกังวลสถานการณ์สงครามที่ร้อนแรงขึ้น อย่างไรก็ดี เงินบาทยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้างจากโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังสามารถรีบาวนด์กลับมาแกว่งตัวในโซน 1,990 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่าเงินบาท รวมถึงสกุลเงินฝั่งเอเชียโดยรวมอาจยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้างจากภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน (รอลุ้นว่านักลงทุนต่างชาติจะเดินหน้าซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยหรือไม่) ทว่า เงินบาทอาจไม่ได้แข็งค่าขึ้นไปมาก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ทำให้หากเงินบาทมีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนอาจต้องเป็นช่วงหลังตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้เรายังคงประเมินว่าในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงินบาทอาจติดโซนแนวรับสำคัญแถว 35.80-35.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจรอจังหวะเข้าซื้อเงินดอลลาร์ (รวมถึงเงินเยนญี่ปุ่น) หรือทยอยขายทำกำไรสถานะ Short USDTHB (มองเงินบาทแข็งค่า) ส่วนโซนแนวต้านของเงินบาทอาจยังเป็นโซน 36.05-36.10 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในตลาดการเงิน ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ (ราว 19.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย) จนไปถึงดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ (ราว 21.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย) โดยความเสี่ยงสำคัญ คือ หากรายงานข้อมูลดังกล่าวออกมาดีกว่าคาด และสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่งอาจหนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยิลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่ยาก กดดันให้เงินบาทเสี่ยงที่จะอ่อนค่าทดสอบแนวต้านสำคัญแถว 36.30 บาทต่อดอลลาร์ (หากผ่านได้จะเจอโซน 36.50-36.60 บาทต่อดอลลาร์) ในทางกลับกัน หากข้อมูลดังกล่าวออกมาตามคาด หรือแย่กว่าคาดอาจทำให้ เงินดอลลาร์ย่อตัวลงต่อได้บ้าง แต่อาจไม่ได้ย่อตัวลงแรงหนัก ทำให้เงินบาทสามารถแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับแถว 35.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจะมีโซน 35.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับสำคัญถัดไป

สำหรับวันนี้ ไฮไลต์สำคัญที่ห้ามพลาด คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงาน และรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการ โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ดังกล่าว ออกมาดีกว่าคาด และสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่งอาจยิ่งทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและแนวโน้มเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงมากขึ้น ทั้งนี้ ควรระวังการตีความข้อมูลการจ้างงาน โดยรายงานยอดการจ้างงานอาจไม่สามารถสะท้อนภาวะการจ้างงานได้ดีนัก หลังการประท้วงหยุดงานของกลุ่มสหภาพยานยนต์ (UAW) เริ่มคลี่คลายลง ทำให้อาจมียอดการจ้างงานจากกลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้นหลายหมื่นราย ซึ่งเรายังคงแนะนำให้จับตารายละเอียดของรายงานการจ้างงานในส่วนของ Household data และ Establishment data ว่ายังมีความไม่สอดคล้องกันพอสมควรหรือไม่ และยอดการจ้างงานในส่วนงาน Part-time ยังคงสูงขึ้น ในขณะที่การจ้างงาน Full-time กลับลดลงต่อเนื่องหรือไม่

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด หลังจากที่ผลการประชุมเฟดล่าสุดทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างลดโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังคงมุมมองเดิมว่า เฟดอาจคงดอกเบี้ยได้นานขึ้น จนถึงช่วงไตรมาส 2 ของปีหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น