xs
xsm
sm
md
lg

หลักทรัพย์บัวหลวงเผยนักลงทุนรับเงินคืนจาก FCN กว่า 80% แม้ตลาดผันผวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลักทรัพย์บัวหลวง เผยเดือน ก.ย.66 ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาลง แต่นักลงทุนหุ้นกู้อนุพันธ์ FCN ได้รับเงินสดคืนจากการลงทุนสัดส่วนกว่า 80% สร้างผลตอบแทน 12.32% ต่อปี ชี้ช่วงที่เหลือปี 66 ตลาดหุ้นอาจมีอัปไซด์ แนะหาจังหวะสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องระหว่างรอความชัดเจนของตลาดด้วย FCN ของหลักทรัพย์บัวหลวง เครื่องมือสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 8-12% ต่อปี ชูจุดเด่นสามารถออกแบบได้เองตามผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่ต้องการ

นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการอาวุโส กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงสร้างตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวเป็นขาลงตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ย.66 บวกกับแรงขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการปรับตัวลงตามบอนด์ยิลด์ทั่วโลกและบอนด์ยิลด์ไทยที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่สูงขึ้นกดดันความเชื่อมั่นและดุลบัญชีเดินสะพัด ส่งผลให้เงินทุนไหลออกต่อเนื่องและค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

ซึ่งแนวโน้มตลาดเช่นนี้อาจสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างยาก แต่จากข้อมูลของลูกค้าที่ลงทุน “หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝงประเภท Fixed Coupon Note” (FCN) ที่ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวงในเดือน ก.ย.66 พบว่า นักลงทุนได้รับไถ่ถอนคืนเป็นเงินสดสัดส่วนกว่า 80% เทียบกับสัญญาทั้งหมด โดยได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 12.32% ต่อปี โดยเป็นสัญญา FCN จากการเกิด Knock Out สัดส่วน 79.78% (ไถ่ถอนเป็นเงินสด) ไม่เกิด Knock Out และไม่เกิด Knock In สัดส่วน 4.26% (ไถ่ถอนเป็นเงินสด) และเกิด Knock In สัดส่วน 15.96% (ไถ่ถอนเป็นหุ้นอ้างอิง) ของจำนวนสัญญา FCN ทั้งหมดที่หมดอายุ สะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนภายใต้คำแนะนำของผู้แนะนำการลงทุนของบริษัทเพื่อสร้างผลตอบแทนในภาวะตลาดหุ้นไทยเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทางทีม Research ของหลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินว่า ที่ผ่านมาตลาดหุ้นได้สะท้อนปัจจัยหลายประการไปมากแล้ว จึงคาดว่าอาจมีอัปไซด์ที่จะนำมาซึ่งการกลับมาของความเชื่อมั่นของนักลงทุนและน่าจะช่วยดึงดูดเงินทุนต่างชาติให้ไหลกลับเข้ามาได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหลักทรัพย์โดยตรงอาจไม่ตอบโจทย์มากนัก ดังนั้น FCN จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมต่อการสร้างดอกเบี้ยเงินสดระหว่างรอความชัดเจนของตลาดบนสัญญาที่สามารถออกแบบได้เองตามผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่ต้องการ

“SET Index ที่มีแนวโน้มปรับเป็นขาลง บวกกับวอลุ่มการขายเริ่มสูงขึ้นเกิดเป็นลักษณะ Sell Off ทำให้การลงทุนบนหุ้นโดยตรงอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมต่อการสร้างผลตอบแทนในสภาวะตลาดเช่นนี้ เพราะการซื้อขายหุ้นโดยตรงมีโอกาสขาดทุนหากราคาหุ้นลงไปต่ำกว่าราคาที่ถืออยู่ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนขาลง จากภาวะตลาดเช่นนี้จึงเห็นนักลงทุนรายใหญ่เลือกลงทุนใน FCN เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ โดย FCN เป็นเครื่องมือสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 8-12% ต่อปี ซึ่งมีลักษณะพิเศษ คือ การจ่ายดอกเบี้ยเงินสดต่อเนื่องตลอดการถือครองสัญญา และมีกรอบราคา Knock In เปรียบเสมือนเกาะป้องกันการขาดทุนจากการปรับลงของราคาหุ้นได้ในระดับหนึ่ง” นายบรรณรงค์ กล่าว

นายบรรณรงค์ กล่าวต่อว่า ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา คู่หุ้นที่นักลงทุนได้อัตราดอกเบี้ย FCN สูงสุดสำหรับสัญญาที่เปิดในเดือน ก.ย. คือ คู่หุ้น IVL, SAWAD ที่ระดับ 26.12% ต่อปี รองลงมาเป็นคู่หุ้น BANPU, IVL 24.79% ต่อปี อันดับ 3 คู่หุ้น BDMS, IVL 24.35% ต่อปี อันดับ 4 คู่หุ้น GULF, IVL 21.15% ต่อปี และอันดับ 5 คู่หุ้น CENTEL, OR 21.03% ต่อปี ก่อนหักภาษี

“บริการ FCN ของเราได้การตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ทั้งจากสภาวะตลาดหุ้นไทยเองและจากการช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ของผู้แนะนำการลงทุนมืออาชีพที่มีประสบการณ์และเข้าใจความคาดหวัง รวมถึงโจทย์การลงทุนของผู้ลงทุนแต่ละคน ประกอบฟีเจอร์ส FCN ของบริษัทมีความยืดหยุ่นให้นักลงทุนที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ลงทุนแต่ละท่านได้ เช่น หุ้นอ้างอิง ระยะเวลาของสัญญา ระดับราคา ความถี่ในการรับดอกเบี้ย ทำให้สามารถออกแบบกลยุทธ์การลงทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามคาดหวังบนระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม” นายบรรณรงค์ กล่าว

สำหรับจุดเด่นบริการ FCN ของหลักทรัพย์บัวหลวง ประกอบด้วย 1.อ้างอิงกับคู่หุ้นที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดีทั้งในแง่ปัจจัยพื้นฐานและสภาพคล่องการซื้อขาย รวมถึงเป็นหุ้นที่อยู่ในสภาวะเหมาะสมในการทำ FCN 2.สามารถเลือกจับคู่หุ้นเองได้ และสามารถปรับแต่งราคาใช้สิทธิ ราคา Knock Out และราคา Knock In กำหนดผลตอบแทนที่คาดหวังและความเสี่ยงเองได้ 3.เงินลงทุน FCN ขั้นต่ำเพียง 1 ล้านบาท ทำให้ลงทุนได้สะดวกขึ้นและช่วยกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.สามารถซื้อ FCN โดยได้ราคาหุ้นแบบ Realtime ไม่จำเป็นต้องรอจนสิ้นวันทำให้เพิ่มความยืดหยุ่นและเลือกจับจังหวะตลาดได้

ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจบริการ FCN สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ BLS Customer Service โทร.0-2618-1111


กำลังโหลดความคิดเห็น