หลังจากถูกทุบจนน่วม ราคาหุ้นสร้างจุดต่ำสุดในรอบหลายปี หุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จึงเริ่มตั้งหลักใหม่ และกำลังฟื้นคืนสู่ความคึกคักอีกครั้ง สวนภาวะตลาดหุ้นที่ปั่นป่วน จากผลกระทบสงครามตะวันออกกลาง
หุ้น SABUY ปรับตัวขึ้นทันทีที่เปิดการซื้อขายวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเปิดที่ 4.98 บาท ก่อนปิดที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.61 บาท หรือเพิ่มขึ้น 12.35% มูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 190.02 ล้านบาท
ก่อนเปิดการซื้อขายวันจันทร์ SABUY แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ถึงแนวทางการดำเนินการกับการซื้อหุ้นคืน จำนวน 87.20 ล้านหุ้น หรือ 4.98% ของทุนจดทะเบียน ใช้เงินจำนวน 1,012.23 ล้านบาท โดยซื้อเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
แต่บริษัทจะตัดหุ้นที่ซื้อคืนและลดทุน ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นยภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
ข่าวการตัดทิ้งหุ้นที่ซื้อคืนจำนวน 87.20 ล้านหุ้น อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นเก็งกำไร SABUY เพราะจำนวนหุ้นบริษัทจะหายไป 87.20 ล้านหุ้น หรือ 4.98% ซึ่งหากบริษัทสามารถรักษาผลกำไรสุทธิเท่าเดิม แต่เมื่อคำนวณกำไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้น เพราะตัวแบ่งกำไรหายไป 87.20 ล้านหุ้น
ก่อนหน้า ราคาหุ้น SABUY ทรุดลงต่อเนื่อง จากเคยขึ้นไปสูงสุดระดับ 30 บาท และในรอบ 12 เดือน เคยสร้างราคาสูงสุดที่ 14.30 บาท แต่ม้วนลงมารวดเดียว จนลงไปแตะจุดต่ำสุด นับจากต้นปี 2564 ที่ราคา 4.86 บาท ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
SABUY เข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกในราคา 2.50 บาท จากราคาพาร์ 1 บาท โดยเป็นหุ้นที่เสี่ยยักษ์หรือนายวิชัย วชิรพงศ์ เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ขายออกให้กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ปัจจุบัน ก่อนหุ้นเข้าจดทะเบียนเพียงไม่กี่เดือน
การซื้อขายวันแรก SABUY สร้างความเจ็บปวดให้นักลงทุนที่จองซื้อ เพราะราคาหลุดจอง และยืนต่ำกว่าจองอยู่หลายเดือน จนกระทั่งประกาศผลประกอบการปี 2563 ซึ่งมีผลกำไรเติบโตสูง นักลงทุนจึงแห่เข้ามาเก็งกำไร จนเดือนมีนาคม 2564 ราคาจึงพุ่งขึ้นเหนือจอง และทะยานขึ้นต่อเนื่อง จนแตะระดับสูงสุดเมื่อต้นปี 2565
ผลประกอบการ SABUY เติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2563 มีกำไรสุทธิ 102.06 ล้านบาท ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 213.60 ล้านบาท ปี 2565 กำไรสุทธิ 1,482.11 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 346.56 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 463.55 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะประกาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นักลงทุนกำลังเฝ้าจับตา เพราะจะมีผลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้นโดยตรง
ปัจจัยพื้นฐานของ SABUY ถือว่าแกร่ง โดยมีค่าพี/อี เรโช เพียงประมาณ 7 เท่า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 3% แต่ราคาที่กลิ้งโคโล่ลงจากยอดดอยอาจเป็นเพราะนักลงทุนกังวลแนวโน้มผลประกอบการ และการทุ่มขยายการลงทุนมากมาย จนอาจทำให้บริษัทเกิดปัญหาฐานะการเงินในอนาคต
และภาวะตลาดหุ้นที่ตกต่ำ ทำให้หุ้นเก็งกำไรตัวเล็กตกเป็นเป้าหมายการเทขาย รวมทั้ง SABUY ด้วย
SABUY ผงกหัวขึ้นมาแล้ว ขณะที่หุ้นเก็งกำไรร้อนๆ อีกนับร้อยยังสลบเหมือดอยู่ และทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนกว่า 25,000 รายมีลุ้นขาขึ้นรอบใหม่
แต่ SABUY จะฟื้นขึ้นจากหลุมได้หรือไม่ อดใจรอสักนิด รอผลประกอบการไตรมาสที่ 3
ถ้าตัวเลขผลกำไรไม่เลวร้ายเกินไป SABUY อาจไปได้ต่ออย่างสบายๆ