วัน ออริจิ้น อวดผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 รายได้ทะยานกว่า 941.4 ล้านบาท พุ่งกว่า 100% และมีกำไรสุทธิ 360.9 ล้านบาท เติบโตกว่า 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โชว์พอร์ตอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และการบริการในมือที่สร้างรายได้ประจำอย่างแข็งแกร่ง
นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) มีรายได้รวม 941.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 360.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความสามารถในการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยผลประกอบการของ ONEO เติบโตอย่างต่อเนื่องจากปี 2564 และ 2565 ที่มีรายได้รวม 688.3 ล้านบาท และ 965.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 304.0 ล้านบาท และ 312.4 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ ONEO เป็นบริษัทแกนนำหลัก (Flagship Company) ในธุรกิจดังกล่าวของกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ปัจจุบันดำเนินธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก โดย ณ วันที่ 29 กันยายน 2566 ONEO มีโครงการที่พัฒนาเสร็จหรือเริ่มดำเนินการแล้ว คือกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ซึ่งรวมถึงโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เปิดดำเนินการแล้ว 7 โครงการ มีห้องพักรวม 1,861 ห้อง กลุ่มธุรกิจพื้นที่ค้าปลีกและอาคารสำนักงาน เปิดดำเนินการแล้ว 2 โครงการ มีพื้นที่เช่าสุทธิรวม 6,432.5 ตารางเมตร กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม เปิดดำเนินการแล้ว 6 ร้าน เช่น Gin Kitchen, Origami, Naori เป็นต้น และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการให้บริการด้านการบริหารโครงการในกลุ่มธุรกิจของ ONEO 16 บริษัท และการบริหารจัดการโปรแกรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ (Investment Property) หรือโปรแกรมแฮมป์ตัน 7 โครงการ
ขณะเดียวกัน ONEO มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและรอเปิดดำเนินการ ประกอบด้วยโครงการประเภทโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 23 โครงการ มีห้องพักรวมประมาณ 6,103 ห้อง โครงการประเภทพื้นที่ค้าปลีก 6 โครงการ มีพื้นที่เช่าสุทธิรวมประมาณ 26,680 ตารางเมตร และอาคารสำนักงาน 3 โครงการ มีพื้นที่เช่าสุทธิรวม 66,299 ตารางเมตร และร้านอาหารและเครื่องดื่ม 3 ร้าน และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การบริหารจัดการโปรแกรมแฮมป์ตันที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการอีก 13 โครงการ
“ONEO ได้วางเป้าหมายก้าวเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ รวมถึงโครงการพื้นที่ค้าปลีก อาคารสำนักงาน และธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งจะกระจายและสร้างฐานรายได้ที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้น โดย ONEO จะขยายธุรกิจทั้งในรูปแบบการพัฒนาโครงการเอง การขยายธุรกิจในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) และการเข้าลงทุนในรูปแบบการควบรวมกิจการ (Merger & Acquisition) เข้าซื้อโครงการจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่น เพื่อลดระยะเวลาการพัฒนาโครงการ รับรู้รายได้เร็วขึ้น และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ONEO กล่าว