SEC ฟิลิปปินส์จับมือ SEC สหรัฐฯ และ ADB เพิ่มพูนทักษะเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามวายร้ายที่ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงและก่ออาชญากรรมทางการเงินอื่นๆ
จากข่าวประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (15 ก.ย.) ทั้งสามสถาบัน ได้แก่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของฟิลิปปินส์ SEC ของสหรัฐฯ และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการองค์กรคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (International Organization of Securities Commissions - IOSCO) และการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อฝึกอบรมด้านการสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มพูนทักษะในการป้องกันประชาชนจากการฉ้อโกงและการหลอกลวงของเหล่าอาชญากรที่เกี่ยวข้องกับคริปโตทั้งรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ๆ
เอมิลิโอ อากีโน ประธาน SEC ฟิลิปปินส์ ระบุว่า การประชุมมีเป้าหมายในการเสริมสร้างความสามารถของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของ SEC ฟิลิปปินส์ ในการสอบสวนอาชญากรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน การปั่นหุ้น การฉ้อโกงนอกตลาด และการหลอกลวงโดยใช้คริปโตเป็นเครื่องมือ
อากีโนสำทับว่า พวกนักต้มตุ๋นมีเทคนิคขั้นสูงและซับซ้อนมากขึ้นโดยอาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆ ดังนั้น SEC จึงต้องปรับปรุงความสามารถในการสอบสวนและบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายนำหน้าผู้ร้ายหนึ่งก้าวเสมอในการป้องกันการฉ้อโกง
นอกจากการประชุมเชิงปฏิบัติการแล้ว SEC ฟิลิปปินส์ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจแบบพหุภาคีเกี่ยวกับอาชญากรรมคริปโตของ IOSCO รวมทั้งขอให้สมาชิกรัฐสภาเพิ่มอำนาจในการบังคับใช้กฎหมายด้วยการออกกฎหมายใหม่ที่สอดคล้องกับมาตรฐานที่ IOSCO กำหนด
การเป็นพันธมิตรระหว่างสถาบันทั้งสามแห่งนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับฟิลิปปินส์ในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิตอลภายในประเทศ
ต้นปีนี้ SEC ฟิลิปปินส์ชะลอการเปิดเผยกรอบโครงกฎข้อบังคับสำหรับสินทรัพย์คริปโตตามที่ประกาศไว้ครั้งแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อากีโนยืนยันว่า ฟิลิปปินส์ไม่ได้ทิ้งเรื่องนี้ แต่ต้องการทำให้แน่ใจว่า ประชาชนจะไม่ถูกโกง
อนึ่ง คริปโตยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในฟิลิปปินส์ โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางและ SEC เรียกร้องให้ประชาชนงดยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมการเทรดคริปโตที่ดำเนินการโดยแพลตฟอร์มต่างชาติเนื่องจากกังวลเรื่องการปกป้องนักลงทุน
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา SEC ฟิลิปปินส์วิจารณ์ตราสารอนุพันธ์ของเจมิไนว่า เป็นผลิตภัณฑ์หลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศ
กระนั้น แดนตากาล็อกยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดบริษัทคริปโต อีกทั้งถูกมองอย่างกว้างขวางว่า เป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่โตเร็วที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ถือครองสินทรัพย์ดิจิตอลถึง 11.6 ล้านคน และติดอันดับ 10 ของโลกในแง่การยอมรับคริปโต