บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน ไร้ปัจจัยใหม่หนุน และเม็ดเงิน Fund Flow ต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง ล่าสุด ตลท.สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 ก.ย.66 พบว่าต่างชาติขายสุทธิแล้วเกือบ 1.48 แสนล้านบาท จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของ ดัชนี 1,520-1,570 จุด แนะลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ได้แก่ PTTEP-PTT-BCP-TOP
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่มีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง โดย ตลท. ได้สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กันยายน 2566 พบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 147,540.14 ล้านบาท สวนทางกับนักลงทุนกลุ่มอื่นที่ซื้อสุทธิ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูงคาดช่วยพยุงราคาหุ้นกลุ่มพลังงานหนุนให้ดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,520-1,570 จุด
ขณะที่ปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ เช่น วันที่ 18-24 ก.ย. นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีกำหนดเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly: UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม วันที่ 25 ก.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน วันที่ 27 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2566 วันที่ 29 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ เช่น วันนี้ (19 ก.ย.) อียูรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ส.ค. สหรัฐฯ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือน ส.ค. วันที่ 20 ก.ย. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) สหรัฐฯ รายงานสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 19-20 ก.ย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยรู้ผลในไทยเช้าวันที่ 21 ก.ย. (FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%) วันที่ 21 ก.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงิน (นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายและคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.) วันที่ 22 ก.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงิน (ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอาจยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบจะเปลี่ยนมาคุมเข้มนโยบายการเงิน) สหรัฐฯ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ-ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ก.ย.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ส่งผลบวกกับหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTTEP, PTT, BCP และ TOP
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้ว่ายังคงต้องจับตาการประชุม FOMC ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% หาก FED ไม่มีมุมมองการปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายในอนาคตจะทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้น
ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสอ่อนตัวลง โดยหากไม่หลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,900$/oz จะเริ่มสร้างฐานและมีโอกาสรีบาวนด์ได้ ระหว่างสัปดาห์มองราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบ 1,905-1,935$/oz คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้