บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยฟื้นตัว Sideway Up ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ มีแรงหนุนจากอัตราว่างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาด สนับสนุนคาดการณ์ FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในการประชุมเดือน ก.ย. บวกการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังรัฐบาลชุดใหม่ตั้งแต่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,540-1,580 จุด แนะลงทุนใน mai ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ได้แก่ SPA, AU, D และ RP
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัว Sideway Up ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากตลาดแรงงานสหรัฐที่ส่งสัญญาณทรงตัวจากอัตราว่างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาสูงกว่าคาดสนับสนุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เห็นได้จาก Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 93% ที่ FED จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ และราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
ส่วนปัจจัยในประเทศมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งเตรียมนับหนึ่งการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่เศรษฐา 1 หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา กำหนดประชุม ครม.นัดพิเศษ 6 ก.ย.นี้ จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีจะอยู่ในกรอบ 1,540-1,580 จุด
ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาในประเทศ เช่น วันนี้ (5 ก.ย.) กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า (เงินเฟ้อ) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก วันที่ 6 ก.ย. ครม.ชุดใหม่ประชุมนัดพิเศษ วันที่ 8 ก.ย. ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล และสัปดาห์ที่ 2 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัปเดตสถานการณ์ลงทุน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เช่น วันนี้ (5 ก.ย.) จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ส.ค. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ส.ค. สหรัฐฯ รายงานยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.ค. วันที่ 6 ก.ย. อียูรายงานยอดค้าปลีกเดือน ก.ค. สหรัฐฯ รายงานยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน ก.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ส.ค. และดัชนีภาคบริการเดือน ส.ค. เช้าวันที่ 7 ก.ย. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) วันที่ 7 ก.ย. จีนรายงานยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน ส.ค. สหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 19-20 ก.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น mai ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ได้แก่ SPA, AU, D และ RP รวมทั้งหุ้นได้ประโยชน์จากการเปิดตัว iPhone 15 ในวันที่ 12 กันยายนนี้ ได้แก่ COM7, SPVI, CPW และ SYNEX
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินภาพรวมทองคำสัปดาห์นี้ว่า ยังคงต้องจับตาราคาน้ำมันดิบเนื่องจากราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงที่ 79-83 ดอลลาร์/บาร์เรล ทำให้อัตราเงินเฟ้อเดือนสิงหาคมมีโอกาสทรงตัวเหนือระดับ 3.0% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2.0% ส่งผลให้ตลาดคาดว่า FED จะกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน จึงประเมินว่าราคาทองคำอาจทรงตัวในกรอบ 1,915-1,955$/oz คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้