ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.ย.2566
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (1 ก.ย.) หลังจากการพุ่งขึ้นของอัตราว่างงานได้ตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,837.71 จุด เพิ่มขึ้น 115.80 จุด หรือ +0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,515.77 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,031.81 จุด ลดลง 3.15 จุด หรือ -0.02%
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (1 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราและกลุ่มรถยนต์ที่ปรับตัวลง ซึ่งบดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาของเดนมาร์กเบียดหุ้นแอลวีเอ็มเอชขึ้นแท่นบริษัทจดทะเบียนมูลค่าสูงที่สุดของยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 458.13 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือ -0.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,296.77 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,840.34 จุด ลดลง 106.74 จุด หรือ -0.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.54 จุด เพิ่มขึ้น 25.41 จุด หรือ +0.34%
-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (1 ก.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวขึ้นด้วย หลังนักลงทุนสหรัฐฯ เพิ่มการถือหุ้นในบริษัทจอห์นสัน แมทเธย์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.54 จุด เพิ่มขึ้น 25.41 จุด หรือ +0.34% และปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (1 ก.ย.) แตะระดับสูงสุดของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของจีนได้ช่วยหนุนตลาดน้ำมันด้วยก่อนที่ตลาดจะปิดทำการต่อเนื่อง 3 วันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เนื่องจากวันจันทร์ (4 ก.ย.) เป็นวันแรงงานซึ่งเป็นวันหยุดประจำชาติของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค. พุ่งขึ้น 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 85.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.2565 ขณะที่ปรับตัวขึ้น 7.2% ในรอบสัปดาห์นี้ และเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือน ส.ค.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน พ.ย. พุ่งขึ้น 1.72 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 88.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.2565 โดยปรับตัวขึ้น 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้ และปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือน ส.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นในเดือน ส.ค.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยสัญญาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดที่ระดับ 51 ในเดือน ส.ค. และจีนได้สั่งปรับลดเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านด้วย
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรชะลอตัวลงและอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,967.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และในรอบสัปดาห์นี้ราคาเพิ่มขึ้น 1.4% แต่ราคาลดลงมากกว่า 2% ในเดือน ส.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 25.00 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 24.562 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาแพลทินัมส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 5.70 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 968.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ หรือ 0.70% ปิดที่ 1,227.40 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (1 ก.ย.) หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.60% แตะที่ระดับ 104.2294
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 146.1410 เยนในวันศุกร์ (1 ก.ย.) จากระดับ 145.4070 เยนในวันพฤหัสบดี (30 ส.ค.), ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 0.8853 ฟรังก์สวิส จาก 0.8830 ฟรังก์สวิส, ดอลลาร์แข็งค่าแตะ 1.3600 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3514 ดอลลาร์แคนาดา และดอลลาร์แข็งค่าแตะ 11.0397 โครนาสวีเดน จาก 10.9402 โครนาสวีเดน
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0779 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ (1 ก.ย.) จาก 1.0846 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2593 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2665 ดอลลาร์
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 34,837.71 จุด เพิ่มขึ้น 115.80 จุด หรือ +0.33%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,515.77 จุด เพิ่มขึ้น 8.11 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,031.81 จุด ลดลง 3.15 จุด หรือ -0.02%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,464.54 จุด เพิ่มขึ้น 25.41 จุด หรือ +0.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,296.77 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.27%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,840.34 จุด ลดลง 106.74 จุด หรือ -0.67%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,278.30 จุด ลดลง 27.00 จุด หรือ -0.37%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,489.90 จุด ลดลง 27.90 จุด หรือ -0.37%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 32,710.62 จุด เพิ่มขึ้น 91.28 จุด หรือ +0.28%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,563.71 จุด เพิ่มขึ้น 7.44 จุด หรือ +0.29% โ
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 16,644.94 จุด เพิ่มขึ้น 10.43 จุด หรือ +0.06%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,133.25 จุด เพิ่มขึ้น 13.37 จุด หรือ +0.43%
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันศุกร์ที่ 1 ก.ย. เนื่องจากผลกระทบพายุไต้ฝุ่นเซาลา
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 65,387.16 จุด เพิ่มขึ้น 555.75 จุด หรือ +0.86%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,977.65 จุด เพิ่มขึ้น 24.39 จุด หรือ +0.35%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,181.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.81 จุด หรือ +0.09%
ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวันศุกร์ที่ 1 ก.ย. เนื่องในวันเลือกตั้ง