ใครที่ตามแห่เก็งกำไรหุ้นบริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ช่วงนี้ต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวราคาในกระดานอย่างใกล้ชิด เพราะเด้งขึ้นลงอย่างวูบวาบ พลาดหรือเผลอเพียงนิดเดียวเจ็บตัวทันที
ก่อนหน้านี้ SABUY เงียบไปหลายวัน ราคาถอยลงมาในระดับ 7 บาทเศษ แต่วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา หุ้นถูกปลุกผีตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยราคาเปิดพุ่งไปที่ 7.75 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดระหว่างชั่วโมงซื้อขายที่ 8.75 บาท ก่อนอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 1.15 บาท หรือเพิ่มขึ้น 15.54% มูลค่าซื้อขายพองโต 1,831.09 ล้านบาท จากที่เคยซื้อขายวันละต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ตลาดหลักทรัพย์เคลื่อนไหวทันที สอบถามไปยัง SABUY ถึงราคาหุ้นที่ร้อนแรง และข่าวกองทุนสหรัฐฯ ติดต่อขอซื้อหุ้น 10% รวมทั้งข่าวการทำ COVER SHORT หรือการซื้อหุ้นคืน เพื่อส่งมอบหุ้นที่ยืมมาขายในช่วงราคาหุ้นปรับฐานลง
ก่อนเปิดการซื้อขายวันที่ 13 กันยายน SABUY ได้ชี้แจงตอบประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถาม โดยระบุว่า ในช่วง 6-8 เดือนที่ผ่านมา มีกองทุนต่างชาติสนใจเข้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุน และมีการติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ ได้แจ้งต่อนักลงทุนมาโดยตลอด
SABUY ชี้แจงต่อว่า ในช่วงนี้มีกองทุนต่างประเทศ 1-2 รายได้ติดต่อขอซื้อหุ้นของบริษัทฯ จึงได้ประสานให้พบกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2-3 ราย เพื่อให้เจรจาในเงื่อนไขต่างๆ และจะให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้รายงานความคืบหน้าใดๆ ซึ่งการพิจารณาซื้อขายหุ้นเป็นเรื่องระหว่างกองทุนและผู้ถือหุ้น แต่หากมีความชัดเจนในการลงทุนจะนำเสนอข้อมูลให้ทราบ
สำหรับประเด็น Cover short บริษัทฯ มิได้ให้ข่าวใดๆ
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 กันยายน มีสื่ออย่างน้อย 1 สำนัก เสนอข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY ซึ่งระบุว่า ราคาหุ้น SABUY ที่ดีดตัวขึ้นแรงส่วนหนึ่งน่าจะมาจากนักลงทุนรายใหญ่บางรายเข้าทำรายการ COVER SHORT หรือซื้อหุ้นคืนเพื่อส่งมอบหุ้นที่ยืมมา เพราะมีการทำ SHORT SELL หรือยืมหุ้นมาขายในช่วงราคาหุ้นปรับตัวลงจำนวนประมาณ 113 ล้านหุ้น
นอกจากนั้น นายชูเกียรติ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการที่กองทุนสหรัฐฯ จะเข้ามาซื้อหุ้น SABUY ในสัดส่วน 10% ของทุนจดทะเบียน
แต่ประเด็นการทำ COVER SHORT ซึ่งมีสื่อบางสำนักเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์จากนายชูเกียรติ นั้น SABUY ปฏิเสธออกมาแล้วว่า บริษัทไม่ได้ให้ข่าว ซึ่งถ้าไม่ปฏิเสธคงมีคำถามพุ่งตรงไปยังชูเกียรติ
รู้ได้อย่างไรว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ทำ COVER SHORT และได้ข้อมูลมาจากไหน จึงรู้ว่ารายใหญ่ทำ SHORT SELL ไว้จำนวนประมาณ 113 ล้านหุ้น
การให้ข่าว COVER SHORT และการให้ข่าวกองทุนสหรัฐฯ จะเข้ามาซื้อหุ้น 10% มีผลโดยตรงต่อหุ้น SABUY เป็นการสร้างแรงกระตุ้นราคาหุ้น ซึ่งหากตลาดหลักทรัพย์ไม่เร่งสอบถามข้อเท็จจริง และสั่งให้ฝ่ายบริหาร SABUY ชี้แจงในทันที
หุ้น SABUY อาจถูกลากขึ้นต่อเนื่องในวันที่ 13 กันยายน โดยแมลงเม่าที่ได้รับการปลุกเร้าจากข่าวจะตามแห่เข้าไปเก็งกำไร จนเกิดความเสียหายในภายหลัง
ตลาดหลักทรัพย์ได้ติดเบรก ปิดรอบ ตัดตอนความร้อนแรงของ SABUY อย่างฉับไวเพียงชั่วข้ามคืน
ราคาหุ้น SABUY ไปต่อไม่ไหว โดยวันที่ 13 กันยายนอ่อนตัวลงมาปิดที่ 8.40 บาท ลดลง 15 สตางค์ และล่าสุดวันที่ 14 กันยายน ทรุดลงมาปิดที่ 8.20 บาท ลดลง 20 สตางค์ มูลค่าซื้อขายลดฮวบเหลือ 595.60 ล้านบาท
SABUY เป็นหุ้นเก็งกำไรที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง มีข่าวกระตุ้นราคาบ่อยครั้ง และผู้บริหารบริษัทฯ เป็นคนขยันให้ข่าวเสียด้วย
แต่นักลงทุนที่จะตามแห่เข้าไปเก็งกำไร SABUY ต้องมีวิชาตัวเบา เข้าและออกเร็ว เพราะถ้าช้า ลังเลในการตัดสินใจ มีโอกาส "ติดดอย” ได้
และการลาก SABUY ในช่วงสั้นๆ รอบนี้น่าจะมีนักลงทุนรายย่อยเจ็บๆ คันๆ จาก SABUY จำนวนไม่น้อยเหมือนกัน