"เมคทูวิน โฮลดิ้ง" เข้าสู่ช่วงการเติบโต หลังขยายโรงงานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเสร็จ มั่นใจรับประโยชน์หลายเด้งจากกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณจาก 700-800 คันต่อเดือนเป็น 4,000-5,000 คันต่อเดือน พ่วงได้รับปัจจัยบวกภาครัฐช่วยจ่าย 18,000 บาทต่อคัน และลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วน สนับสนุนไทยเป็น Hub ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ดันความต้องการผู้บริโภคออเดอร์ล้นทะลัก รอส่งมอบไปจนถึงปี 67
นายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมคทูวิน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTW กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้บริษัทย่อย คือ บริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด (DECO) มีแนวโน้มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ วันนี้โรงงานใหม่แล้วเสร็จ รับดีมานด์ที่มีเข้ามาแบบฉุดไม่อยู่ โดยมองว่าเทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้ามาแรง อยู่ในกระแสความสนใจของผู้บริโภค ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเดินทาง สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และช่วยในเรื่องประหยัดค่าใช้จ่าย
และอีกปัจจัยที่สำคัญคือมาตรการที่ทาง DECO เข้าร่วมกับภาครัฐบาล ส่งเสริมการใช้ EV โดยผู้บริโภคจะได้รับส่วนลดทันทีที่ซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 18,000 บาท/คัน ถึงปี 2568 และบริษัทมีบริการดูแลหลังการขายที่ครอบคลุม ผ่านตัวแทนจำหน่ายซึ่งปัจจุบันมีทุกภูมิภาค สนับสนุนคำสั่งซื้อเข้ามาล้น และเรากำลังทยอยส่งมอบสินค้า หลังเดินเครื่องการผลิตโรงงานใหม่ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
สำหรับบริษัท เดโก้ กรีน เอ็นเนอร์จี เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า BEV รายใหญ่และได้มาตรฐานอุตสาหกรรม ก่อนหน้านี้ได้ลงนามในข้อตกลงกับกรมสรรพสามิต ตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้ประกอบการจักรยานยนต์ BEV รายแรกที่ร่วมรายการ
อีกทั้งเป็นผู้ผลิตไม่กี่รายในประเทศที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐบาลต่อเนื่องในมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2565-2568 แบ่งเป็น 2 ปีแรก (ปี 2565-2566) สนับสนุนผู้นำเข้า โดยลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และอีก 2 ปีหลัง (2567-2568) สนับสนุนผู้มีฐานการผลิตในประเทศ ซึ่งกลุ่มบริษัทได้รับอานิสงส์ต่อเนื่อง แตกต่างจากผู้นำเข้ารายอื่น เนื่องจากมีฐานการผลิตที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยเนื้อที่ของโรงผลิตแห่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 23.5 ไร่ พร้อมด้วย การนำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัย
ขณะที่โรงงานเก่ามีเนื้อที่เพียง 6 ไร่ และใช้ร่วมกับธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของ MTW และโรงงานใหม่นี้บริษัทได้ดำเนินการยื่นขอ BOI อีกด้วย จึงมองว่าเป็นทิศทางที่ดีของบริษัทฯ จากการที่ภาครัฐบาลต้องการสนับสนุนประเทศไทยเป็น Hub ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และถือเป็นผู้นำในตลาดนี้
อย่างไรก็ดี โรงงานใหม่ที่แล้วเสร็จคาดจะสนับสนุนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิม 4-5 เท่า รับยอดจองที่เข้ามาจำนวนมาก และตั้งเป้าปีนี้จะผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งมอบจำนวน 12,000 คัน จากปี 2565 ผลิตได้เพียง 700-800 คันต่อเดือน โดยในช่วง 6 เดือนแรกปี 2566 ผลิตและส่งมอบไปแล้วประมาณ 4,000 คัน สนับสนุนงวดครึ่งปีแรกยอดขายเติบโต 179% กำไรสุทธิเติบโต 485% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 3 ปีนี้ คาดว่าจะสามารถผลิตได้ราว 3,000 คัน รับโรงงานใหม่แล้วเสร็จ เริ่มผลิตได้ในช่วงเดือนกันยายน และจะเพิ่มเป็น 4,000-5,000 คันในไตรมาส 4/2566 เป็นฐานการเติบโตใหม่ที่จะสนับสนุนผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ