โบรกเกอร์ ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นหลังซาอุฯ ประกาศลดกำลังผลิต -รัสเซียขยายเวลาส่งออกน้ำมัน ช่วยหนุนผลงานหุ้นพลังงาน ASPS เชื่อหุ้นพลังงานมีโอกาสพลิกฟื้นหนุนตลาด เล็งปรับประมาณการขึ้น หลังสะท้อนปัจจัยลบไปมากพอแล้ว แนะนำเก็งกำไร PTTEP, TOP, PTTGC, SPRC ด้าน DAOL คงน้ำหนักลงทุนเท่ากับตลาด
ASPS เล็งทยอยปรับประมาณการกลุ่มพลังงานขึ้น ช่วงที่เหลือของปี
บทวิเคราะห์ จาก บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า หุ้นไทยที่อิงราคาน้ำมัน มีโอกาสพลิกฟื้นขึ้นมาช่วยหนุนตลาด หลังจากราคาน้ำมันดิบ Brent เมื่อวานนี้ (5 ก.ย.) ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 90 เหรียญ/บาร์เรล (สูงสุดในรอบ เกือบ 1 ปี) และเป็นการเร่งขึ้นเฉพาะช่วง 3Q66 กว่า 20.2%(QTD) หลังจากช่วง 1H66 ปรับตัวลดลงมา -13% โดยแรงหนุนราคาน้ำมันให้เร่งขึ้นมาแรงในไตรมาสที่ 3 นี้ คือ OPEC+ ขยายระยะเวลาลดกำลังผลิตตลอดทางจากสิ้นเดือน ส.ค. ตอนนี้เป็นปลายปี จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และ แรงกดดันจาก Fed ขึ้นดอกเบี้ยลดลง
อย่างไรก็ดี ในช่วง 3Q66 หุ้นพลังงานไทยราคาค่อนข้าง Laggard กว่าราคาน้ำมันมากเกินไป โดย SETENERGY ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบ BRENT ที่เร่งขึ้นมาแรงถึง -17.8%(QTD) ส่วน Alpha หรือผลต่างของผลตอบแทนกับราคา น้ำมัน QTD ในหุ้นตัวอื่นๆ อาทิ IVL -37%, PTTGC -22%, PTT -16%, PTTEP 13%, TOP -10%, SPRC -7.8% เป็นต้น ซึ่งหุ้นดังกล่าวน่าจะสะท้อนความกังวล ประเด็นนโยบายปรับลดราคาพลังงานจากรัฐบาลใหม่มาพอสมควรแล้ว
ขณะเดียวกันหากไปดูประมาณการกำไรจาก Bloomberg Consensus พบว่า กำไร ของ SETENERGY Index ถูกลดประมาณการกำไรลงมาต่อเนื่องหลังมีการรายงาน งบ 2Q66 แล้วถึง -26%ytd ปรับลดมากกว่าภาพรวมตลาด หรือ SET Index ที่ถูก ปรับประมาณการกำไรลง -16%ytd แต่ราคาน้ำมันที่เร่งขึ้นมาเร็วมีโอกาสเห็นการทยอยปรับประมาณการในกลุ่มพลังงานขึ้นในช่วงที่เหลือของปีได้
ที่สำคัญคือ SET Index ประกอบไปด้วยหุ้นอิงกับราคา Commodity สูงถึง 1 ใน 3 ของตลาด ดังนั้นหุ้น พลังงานมีโอกาสพลิกฟื้นขึ้นมาช่วยหนุนตลาดอีกแรง สรุปราคาหุ้นพลังงานที่ Laggard ราคาน้ำมันดิบโลกมาก ซึ่งน่าจะสะท้อนปัจจัยลบ จากนโยบายลดราคาน้ำมันของรัฐบาลใหม่มาพอสมควร และยังได้แรงหนุนจากราคา น้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมาเร็ว แนะนำเก็งกำไรหุ้น PTTEP, TOP, PTTGC, SPRC
DAOL คงน้ำหนักลงทุน หุ้นพลังงานเท่ากับตลาด
ด้านบล.ดาโอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ โดยการขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจของซาอุฯ และการขยาย เวลาการลดการส่งออกน้ำมันของรัสเซียที่นานกว่าคาดจะสร้างความประหลาด ใจให้กับตลาดที่คาดการณ์ว่าการขยายเวลาจะมีการทบทวนกันแบบรายเดือน
ล่าสุดราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงกว่า USD90/bbl เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ทั้งนี้ ยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปีนี้ที่ USD80/bbl และคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะสูงขึ้น HoH ใน 2H23E โดยมีแรงหนุนจากสถานะตลาดน้ำมันที่ตึงตัวจากแผนการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของ OPEC+
ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” สำหรับกลุ่มพลังงาน และชอบหุ้นพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นที่น่าจะได้ประโยชน์ จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ชอบหุ้น PTTEP (ซื้อ/เป้า 180.00 บาท), SPRC (ซื้อ/เป้า 10.00 บาท) และ TOP (ซื้อ/เป้า 64.00 บาท) เชื่อว่า ราคาหุ้น PTTEP มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่น่าจะสูงขึ้นจาก
ขณะที่โรงกลั่นมีโอกาสสูงขึ้นที่จะเห็นกำไรจากสต็อกน้ำมัน (stock gain) ที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ดี แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน TOP ในระยะสั้นจนกว่าจะ มีความชัดเจนในด้านค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นและแผนการดำเนินงานรองรับ
ทั้งนี้ซาอุฯขยายการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 1.0mbd ตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้การผลิตน้ำมันโดยรวมของซาอุฯจะ อยู่ที่ประมาณ 9.0mbd (ต่ำที่สุดในรอบหลายปี) ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 6 เดือน (ก.ค.-ธ.ค.2023) ทั้งนี้ ซาอุฯรายงานว่าการตัดสินใจปรับลดกำลังการ ผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจะได้รับการทบทวนรายเดือน เพื่อดูว่าจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมหรือจะเพิ่มการผลิตน้ำมันต่อไป
ส่วนรัสเซียประกาศขยาย การลดการส่งออกน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี 2023 ในทิศทางที่สอดคล้องกัน โดยรองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียออกมาประกาศว่ารัสเซียจะลดการส่งออกน้ำมัน 0.3mbd จนถึงสิ้นปี 2023 ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ รัสเซียได้ประกาศลดการส่งออกน้ำมัน 0.5mbd ในเดือน ส.ค.2023 และลดการส่งออกน้ำมันอีก 0.3mbd ใน เดือน ก.ย.2023 (ที่มา: Reuters, Bloomberg)