xs
xsm
sm
md
lg

ข้อควรระวังและประเด็นที่ควรคิดให้หนักก่อน "แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นโยบาย "แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท" กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สังคมถกเถียงกันอย่างมาก ทั้งในรูปแบบที่จะดำเนินการ เงื่อนไขหลักเกณฑ์ หรือข้อจำกัดของเทคโนโลยี พิกัดพื้นที่ของผู้ได้รับสิทธิและการใช้สิทธิ์ การกระหน่ำนโยบายประชานิยมอย่างหน้ามืดตามัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อวินัยการเงิน และสถานะคงคลังของประเทศ โดยหากมองที่หนี้สาธารณะของประเทศไทย ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 มูลค่าหนี้สาธารณะของประเทศไทยอยู่ที่ 10,046,605 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60.81% ของ GDP เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 ราว 83,000 ล้านบาท หรือ 0.8% โดยหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาวคิดเป็นสัดส่วน 89.03% ของหนี้สาธารณะทั้งหมด หรืออยู่ในสถานะปริ่มใกล้ชนเพดาน ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณในโครงการนี้ประมาณ 560,000 ล้านบาท (ประเมินจากช่วงอายุคนไทยตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปซึ่งมีอยู่กว่า 56 ล้านคน)

อย่างไรก็ดีแม้นโยบายเงินดิจิทัล ถูกประเมินในทางเศรษฐกิจ ว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านบาท ส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า หรือ GDP ปี 2567 อาจขยายตัวได้ถึง 5-7% แต่ในทางกลับกัน แน่นอนว่าความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกระทบกับความมั่นคงทางการคลังของประเทศในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

1. การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ว่าจะแจกแบบมีเงื่อนไขหรือไม่ก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อได้ การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ว่าจะแจกแบบมีเงื่อนไขหรือไม่ก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อได้ เนื่องจากเงินดิจิทัลที่ถูกแจกออกไปจะเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน นำไปสู่การจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการมากขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่อุปทานและปัจจัยการผลิตเท่าเดิม ดังนั้น ราคาสินค้าและบริการจึงต้องปรับสูงขึ้นตามไปด้วย

2. การแจกเงินดิจิทัลอาจทำให้รัฐขาดดุลและสร้างหนี้สาธารณะได้มากขึ้น หากไม่มีรายได้เพิ่มมาชดเชย การแจกเงินดิจิทัลอาจทำให้รัฐขาดดุลและสร้างหนี้สาธารณะได้มากขึ้น หากไม่มีรายได้เพิ่มมาชดเชย ตัวอย่างเช่น หากมีการแจกเงินดิจิทัล 3.3 แสนล้านบาท แต่รัฐไม่มีรายได้เพิ่มมาชดเชย 3.3 แสนล้านบาทดังกล่าว รัฐก็จะขาดดุลงบประมาณ 3.3 แสนล้านบาท และนำไปสู่การสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น

3. การแจกเงินดิจิทัลอาจไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจหรือเศรษฐกิจโดยรวม หากประชาชนนำเงินไปออมหรือชำระหนี้แทนการใช้จ่าย การแจกเงินดิจิทัลอาจไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจหรือเศรษฐกิจโดยรวม หากประชาชนนำเงินไปออมหรือชำระหนี้แทนการใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น หากประชาชนนำเงินดิจิทัลไปออม เงินออมดังกล่าวก็จะไม่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและจะไม่ก่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจไม่ได้รับอานิสงส์จากการแจกเงินดิจิทัล

4. การแจกเงินดิจิทัลอาจไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง การแจกเงินดิจิทัลอาจไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง เนื่องจากการแจกเงินดิจิทัลอาจกำหนดเงื่อนไขไว้ เช่น ต้องมีสมาร์ทโฟนหรือมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงไม่ได้รับเงินดิจิทัล

5. เงินที่รัฐใช้แจกประชาชน สุดท้ายแล้วต้องมาจากภาษีของประชาชน เงินที่รัฐใช้แจกประชาชน สุดท้ายแล้วต้องมาจากภาษีของประชาชน ตัวอย่างเช่น หากรัฐแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ประชาชนทุกคนจะต้องเสียภาษีเพิ่ม เพื่อชดเชยเงินที่รัฐใช้แจกเงินดิจิทัล


นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆที่ต้องระมัดระวังเพิ่มเติมอีก ได้แก่

1. ความเสี่ยงด้านไซเบอร์

การแจกเงินดิจิทัลอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านไซเบอร์ เนื่องจากเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่อาจถูกโจรกรรมหรือถูกใช้อย่างผิดกฎหมายได้ ภาครัฐควรมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านไซเบอร์อย่างเข้มงวด เช่น การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ การให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านไซเบอร์ เป็นต้น

2. ความพร้อมของระบบเทคโนโลยี

การแจกเงินดิจิทัลจำเป็นต้องมีระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการรองรับการโอนเงินดิจิทัลจำนวนมากให้กับประชาชนทั้งหมด 50 ล้านคน ภาครัฐควรมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมของระบบเทคโนโลยีให้รอบคอบก่อนดำเนินการแจกเงินดิจิทัล

3. การกำหนดเงื่อนไขในการแจกเงินดิจิทัล

การกำหนดเงื่อนไขในการแจกเงินดิจิทัล เช่น ต้องมีสมาร์ทโฟนหรือมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน เป็นต้น อาจทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงเงินดิจิทัล ภาครัฐควรพิจารณากำหนดเงื่อนไขอย่างรอบคอบ เพื่อให้เงินดิจิทัลกระจายตัวไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง

4. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

การแจกเงินดิจิทัลอาจส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ภาครัฐควรศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรอบคอบก่อนดำเนินการแจกเงินดิจิทัล เช่น ผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย การลงทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นต้น

5. ความสามารถในการแบกรับภาระงบประมาณ

การแจกเงินดิจิทัลเป็นนโยบายที่มีต้นทุนสูงมาก ภาครัฐควรพิจารณาความสามารถในการแบกรับภาระงบประมาณอย่างรอบคอบ หากไม่มีงบประมาณเพียงพอ อาจก่อให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น

รายงานหนี้สาธารณะจาก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สังกัดกระทรวงการคลัง


กำลังโหลดความคิดเห็น