xs
xsm
sm
md
lg

สื่อนอกถาม "เศรษฐา" จะทำตามสัญญาแจกเงินดิจิทัล 10000 บาท จริงมั้ย?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย เสนอนโยบายประชานิยมสุดโต่ง ล้วงคลังแจกเงินดิจิทัลผ่านระบบ private blockchain ให้ประชาชนทั่วประเทศที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปได้ทุกคนๆละ 10,000 บาทโดยไม่มีเงื่อนไขเป็น หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง ซึ่งล่าสุดกระแสนโยบายดังกล่าวถูกนำกลับมาถกเถียงกันอีกครั้งหลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย

จากการเปิดเผยของ coinmarketcap เว็บมอนิเตอร์ราคาเหรียญคริปโตระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นักการเมืองที่สนับสนุนและผลักดันการใช้ Crypto ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ในนโยบายหาเสียงนั้นสัญญาว่าจะแจกเงินดิจิทัล นายเศรษฐา ได้เสนอให้มีการแจกเงินดิจิทัลผ่านระบบ private blockchain ให้กับประชาชนคนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีซึ่งผูกติดกับบัตรประชาชน คนละ 10,000 บาท หรือ ประมาณ 280 ดอลลาร์ หากพรรคเพื่อไทยของเขาชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะมีการวางระบบโดยยึดโยงกับพื้นที่พิกัดที่ระบุไว้ในบัตรประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ในรัศมี 5 กิโลเมตร และผู้ที่ได้รับเงินดังกล่าวตจะต้องใช้ให้หมดภายในระยะเวลา 6 เดือน

ข้อเสนอของทวีสินได้รับการตอบรับด้วยปฏิกิริยาที่หลากหลาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในท้องถิ่นบางราย เรียกการเคลื่อนไหวนี้ว่าเป็น "กลไก" และตั้งคำถามว่านี่จะเป็นการใช้เงินทุนอย่างดีที่สุดจริงหรือ แทนที่จะนำไปใช้ในการบรรเทาความยากจนและปัญหาสังคมอื่น ๆ หรือไม่ หรือเพียงดึงมวลชนเรียกเรตติ้งตามกระแส "ประชานิยม" แต่ผลเชิงลบทำให้ระบบเศรษฐกิจสังคมเปราะบางและอ่อนแอในระยะยาว เพราะไม่สามารถแข็งแรงและยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตนเอง จะต้องพึ่งพิงแต่รัฐสวัสดิการแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และอาจเสียสมดุลคงคลังในระยะยาวเมื่อรายได้ประเทศไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่มีให้กับนโยบายรัฐสวัสดิการแบบประชานิยม 

อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองเชิงบวกในกลุ่มคนบางกลุ่มที่มองว่านี่เป็นความก้าวหน้าในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางฟินเทคของเอเชีย ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจไปด้วย

นอกจากนี้การแต่งตั้งนายทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับอนาคตของสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทย เนื่องจากเขาเป็นนักลงทุนด้านสกุลเงินดิจิทัลที่แสดงทัศนคติเชิงบวกและจุดยืนเชิงบวกต่อเทคโนโลยีฟินเทคตและบล็อกเชน โดยสมัยเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน (ก่อนที่จะลาออกมาลงสมัครเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย) ได้มีการเข้าลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG โดยเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ในสัดส่วน 15% ด้วยเงินลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ผ่านบริษัท แสนสิริ จำกัดมหาชน หรือ SIRI ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ในขณะนั้น

ทั้งนี้หลังจากมีการแต่งตั้งนายเศรษฐา ทวิสิน ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทย และได้จุดชนวนการถกเถียงถึงประเด็นดังกล่าวขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นถึงความคุ้มค่า ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ จนถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อวินัยการเงินการคลัง ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน เข้ารับตำแหน่ง ก็ต้องรอดูกันว่าข้อเสนอของเขาสำหรับ "crypto airdrop" ระดับชาติจะกลายเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งมีความชัดเจนอย่างหนึ่งว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่มุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมฟินเทคที่เปิดรับเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยประเมินว่าบริษัทที่อาจได้รับประโยชน์จากการวางระบบในโครงการดังกล่าว คือบริษัทที่เขาเคยเข้าไปลงทุนสมัยก่อนเข้าสู่สนามการเมือง




กำลังโหลดความคิดเห็น