ฝ่ายวิจัย CGS-CIMB มองทิศทางตลาดหุ้นไทยสดใสขึ้น หากมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีหลายมาตรการที่จะออกมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ จึงคงเป้าหมาย SET Index สิ้นปีนี้ไว้ที่ 1,720 จุด พร้อมแนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) หุ้นกลุ่มธนาคาร โรงแรม ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้าง
คุณเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) หรือ CGS-CIMB จำกัด มองแนวโน้มการเมืองไทยว่า การที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน อดีต CEO ของแสนสิริเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากนายเศรษฐาได้คะแนนเสียงไม่พอในการโหวตรอบที่ 3 นี้ เชื่อว่าการโหวตรอบที่ 4 จะมีการเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาแทน แม้ในขณะนี้จะยังไม่มีความแน่นอนทางการเมือง แต่ในท้ายที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อยู่ดี จึงมองว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อ sentiment ของตลาดหุ้นไทย
“แม้ว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจล่าช้า แต่เราคาดว่ารัฐบาลใหม่จะนำโดยพรรคเพื่อไทย น่าจะเริ่มเข้ามาทำงานได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เรามองว่าจะช่วยลดความกังวลของตลาด และมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกจิของรฐับาลใหม่น่าจะส่งผลดีต่อ sentiment ของตลาดหุ้นบ้านเรา” หัวหน้าฝ่ายวิจัย CGS-CIMB กล่าว
นับนั้งแต้ต้นปีจนถึงขณะนี้ ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่แย่สุด (worst performer) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งในรูปของสกุลเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลของ Bloomberg (Figure28) ดังนั้น ฝ่ายวิจัย CGS-CIMB คาดว่ารัฐบาลชุดใหม่ภายใต้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และส่งผลดีต่อภาคธุรกิจในประเทศ
โดยมองกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ คือ กลุ่มธนาคาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าราคาหุ้นในกลุ่มเหล่านี้จะตอบสนองในเชิงบวก จึงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) ในหุ้นกลุ่มดังกล่าว
สำหรับหุ้นที่ฝ่ายวิจัย CGS-CIMB เลือกเป็น Top pick ประกอบด้วย AP, BBL, BH, CK, CPALL, CRC, ERW, ICHI, MINT, PR9, ORI, SCB, STEC และ WHA
ขณะที่แนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight) หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มโทรคมนาคม กลุ่มพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค
คุณเกษม กล่าวว่า ฝ่ายวิจัย CGS-CIMB ยังคงเป้าหมาย SET Index สิ้นปี 2566 อยู่ 1,720 จุด แม้ว่าสถานการณ์การเมืองอาจยังมีความไม่แน่นอน แต่เชื่อว่าทิศทางการเมืองไทยน่าจะเป็นไปตามที่คาดไว้ คือ พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็น sentiment บวกต่อตลาดหุ้น ทั้งนี้เป้าหมาย SET Index ที่ 1,720 จุด เท่ากับค่า P/E 17 เท่าในปี 2567 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี (2556-2566)
“เรามองว่า downside risk จะมาจากความวุ่นวายทางการเมือง ส่วน upside risk น่าจะมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ และการที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มสดใสขึ้น” หัวหน้าฝ่ายวิจัย CGS-CIMB กล่าว