xs
xsm
sm
md
lg

คาด AUM ทั้งปีแตะ 1.7 แสนล้าน วรรณส่งกองไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ 5 เอาใจนักลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บลจ.วรรณชี้เศรษฐกิจโลกยังเผชิญความผันผวน หลายธนาคารกลางยังติดตามอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ประกอบกับปัจจัยความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ยังมีโอกาสสร้างความผันผวนสินทรัพย์หลักได้เป็นระยะ แนะกระจายความเสี่ยงลงกองทุนทางเลือก Life Settlement Fund ซีรีส์ 5 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย รองรับความต้องการของลูกค้า เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 21-29 ส.ค.นี้ 
คุณพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเผชิญกับความผันผวนจากปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคารประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีน และทิศทางเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงบางประเทศ ทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป หรือแม้แต่ภูมิภาคเอเชีย แม้สถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกจะผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ตามการอ่อนตัวของราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ธนาคารกลางส่วนมากยังต้องติดตามสถานการณ์การปรับตัวลงของอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากอุปสงค์ในภาคบริการและค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น อาจสร้างแรงกดดันให้เงินเฟ้ออยู่เหนือระดับเป้าหมายยาวนานกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป กอปรกับประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นอีกประเด็นที่กดดันบรรยากาศการลงทุน 
ในแง่ของการลงทุนในตลาดสินทรัพย์หลัก บริษัทยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น โดยแนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว โดยมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงช่วยจำกัดความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง (Hard-Landing) อีกทั้งตลาดรับรู้ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่ผันผวนไปพอสมควร ซึ่งแนะนำให้เลือกลงทุน “หุ้นกลุ่มเติบโต (Global Growth)” ที่มีขนาดใหญ่ มีฐานะทางการเงินแข็งแรง กำไรบริษัทฟื้นตัวได้ดี โดยเฉพาะบริษัทที่ได้ประโยชน์จาก Generative AI ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมทั้ง “ตลาดหุ้นในฝั่งเอเชีย” ได้แก่ จีน และเอเชียแปซิฟิก ที่ลงทุนในธุรกิจที่มีความยั่งยืนและพลังงานสะอาด (Asia Pacific ESG) ที่จะได้ประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคที่ชะลอตัว ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันด้านดอกเบี้ยนโยบาย และเชื่อว่าจะเป็นภูมิภาคสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า 
ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดสินทรัพย์หลัก เช่น ตราสารทุน ตราสารหนี้ รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง การกระจายความเสี่ยงถือเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนในมุมมองของ บลจ.วรรณ และอีกทางเลือกที่ บลจ.วรรณ แนะนำให้ลูกค้ามาโดยตลอด คือการจัดสรรเงินบางส่วนเพื่อลงทุนในกองทุนทางเลือก กองทุนเปิด วรรณ ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ โดยปัจจุบัน บลจ.วรรณขอเสนอ กองทุนเปิด วรรณ ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ 5 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (ONE-LS5-UI) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามามากตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันกองทุนมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8-9% ต่อปี ทั้งนี้ กองทุน ONE-LS5-UI จะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม-29 สิงหาคม 2566

สำหรับกองทุน ONE-LS5-UI เน้นลงทุนในกรมธรรม์ประกันชีวิตในตลาดรองสหรัฐฯ ลงทุนในกรมธรรม์ในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (กองทุนหลัก) คือกองทุน One Life Settlement Limited Partnership ซึ่งบริหารจัดการการลงทุนโดย SL Investment Management ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่ง ONE-LS5-UI เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Feeder Fund กองทุนที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศในระดับความเสี่ยงที่ 8+ กองทุน ONE-LS5-UI มีอายุโครงการ 3 ปี 3 เดือน โดยระหว่างทางการลงทุน ผู้ถือหน่วยมีโอกาสไถ่ถอน (Redemption) หน่วยลงทุนได้เมื่อถือลงทุนครบ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งสามารถไถ่ถอนได้ตามที่ บลจ.วรรณกำหนด เงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

นายพจน์กล่าวต่อว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าการกระจายความเสี่ยงโดยแนะนำการลงทุนกองทุนทางเลือกจะสามารถสร้างโอกาสการลงทุนในช่วงสินทรัพย์ดั้งเดิมมีความผันผวนได้ดี โดยที่ผ่านมากองทุนทางเลือก ไลฟ์ เซทเทิลเมนท์ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีต่อเนื่อง โดยบลจ.วรรณยังครองแชมป์กองทุนสินทรัพย์ทางเลือกอันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยกองทุน ONE-LS4-UI มียอดขายประมาณ 3.3 พันล้านบาท ถือเป็นการ IPO กองทุนสินทรัพย์ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดในตลาดของปีนี้

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ จำกัด เปิดเผยถึงเศรษฐกิจไทยว่า มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี หนุนโดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี บวกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมา คาดช่วยหนุนทั้งการท่องเที่ยวในประเทศ และการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในระยะสั้น ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัวต่อเนื่อง ช่วยลดแรงกดดันด้านการใช้นโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

“ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังคงมีอัตราการขยายตัวเกือบ 3% จากการท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัว โดยปัจจัยบวกที่เห็นชัดคือการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวจีนและหวังว่าจะเป็นแรงส่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นมาได้ถึง 70% ของก่อนช่วง covid-19 หรือประมาณ 29 ล้านคน ขณะที่ตัวเลขการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราที่ลดลงนั้นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทั้งนี้ มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณน่าจะมาล่าช้ากว่ากำหนดอันเป็นผลมาจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า” นายมณฑลกล่าว
 
สำหรับปัจจัยบวกในช่วงถัดจากนี้ของปี คืออัตราเงินเฟ้อที่น่าจะชะลอตัวลง ประกอบกับความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลที่น่าจะแล้วเสร็จได้ในก่อนไตรมาสสุดท้ายของปี รวมทั้งปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้น่าจะสามารถเป็นแรงหนุนบรรยากาศการลงทุนในช่วงที่เหลือได้กว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้อยู่ 1,570 จุด ภายใต้สมมติฐาน ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจ และรัฐบาลสามารถออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ภายใน 2-3 เดือนจากนี้    
กำลังโหลดความคิดเห็น