ฟิทช์ เรทติ้งส์ มองภาพรวมธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของไทยน่าจะยังคงได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของรายได้ เนื่องจากปริมาณธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้นและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับที่ต่ำมากก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ธนาคารยังมีฐานะเงินกองทุนและอัตราส่วนสำรองหนี้สูญที่สามารถช่วยรองรับความเสี่ยงได้อย่างค่อนข้างดี หากต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อด้อยคุณภาพ
โดยธนาคารพาณิชย์ไทยรายใหญ่ 6 ราย ยังคงเป็นผู้นำในตลาด โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากรวมที่ 82% อีกทั้งยังมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทต่างๆ ธนาคารยังมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและมีรูปแบบการประกอบธุรกิจ (business model) ที่มีเสถียรภาพ ซึ่งฟิทช์คาดว่าปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการทำกำไรของธนาคารให้อยู่ในเกณฑ์ดีได้ตลอดวัฏจักรของธุรกิจ
นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่บางรายได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อการเติบโตในระยะปานกลางผ่านการลงทุนในต่างประเทศหรือขยายธุรกิจในธุรกิจการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนักต่อโครงสร้างระบบธนาคารไทยหรือความสามารถในการแข่งขันของธนาคารเหล่านี้ในระยะสั้น
ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อ (NPL) รวมของระบบธนาคารปรับตัวดีขึ้นจากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารได้มีการลดสินเชื่อด้อยคุณภาพลงบ้างและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้ปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อย่างไรก็ดี ฟิทช์คาดว่าน่าจะยังคงมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์อยู่ จากสินเชื่อปรับโครงสร้างที่เกิดจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งคิดเป็นเป็นประมาณ 10% ของสินเชื่อรวม
