xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย-การเมืองกระทบ กดดัชนีปิดร่วง -9.69 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -9.69 จุด นักวิเคราะห์เผยปัจจัยลบจากการเมืองในประเทศยังคงเข้ากดดันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีความคืบหน้าวันโหวตเลือกนายกฯ แต่เป็นแค่ปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด" ยังคงสร้างความกังวลต่อภาพการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประเมินกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวต้าน 1,535 จุด และแนวรับ 1,507 จุด แนะจับตา 2 ปัจจัยสำคัญคือ สถานการณ์เศรษฐกิจจีนหลังจากที่ ‘เอเวอร์แกรนด์’ อสังหาฯ จีนยื่นขอล้มละลาย และการออกเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ปรับตัวลดลง -9.69 จุด หรือ -0.63% โดยปิดตลาดที่ 1,519.12 จุด มูลค่าซื้อขาย 56,886.66 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งในทิศทางขาลง โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,527.75 จุด ในทิศทางกลับกันขาลงที่ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุด 1,516.18 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 188 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 172 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 280 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +448.62 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +13.45 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -387.87 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -74.20 ล้านบาท 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,263.96 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.WHA มูลค่าการซื้อขาย 2,042.43 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท
3.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,946.72 ล้านบาท ปิดที่ 8.65 บาท ลดลง 0.30 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,892.11 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,683.64 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท ลดลง 0.30 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SAWAD ปิดที่ 46.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25บาท หรือ 2.79%
2.KKP ปิดที่ 58.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 2.20%
3.KBANK ปิดที่128.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.78%
4.BH ปิดที่261.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.38%
5.MEGA ปิดที่ 42.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.80%
 
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่99.50บาทลดลง 5.00 บาท หรือ 4.78%
2.SCC ปิดที่314.00 บาท ลดลง 3.00บาท หรือ 0.95%
3.CBG ปิดที่76.00 บาท ลดลง 2.00บาท หรือ 2.56%
4.CPN ปิดที่ 66.75 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.48%
5.ADVANC (XD) ปิดที่ 222.00 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 0.45%
 
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,077.54 จุด ลดลง -14.98 จุด หรือ -0.72% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 936.68 จุด ลดลง -7.61 จุด หรือ -0.81% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 458.69 จุด ลดลง -1.26 จุด หรือ -0.27%

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวอิงทางลง ไร้ปัจจัยใหม่หนุน โดยการเมืองในประเทศยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าจะมีความคืบหน้าวันโหวตเลือกนายกฯ แต่เป็นแค่ปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่ตลาดภูมิภาคปรับตัวลงจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจคงอัตราดอกเบี้ยสูงยาวนานเพื่อคุมเงินเฟ้อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปียังอยู่ในระดับสูงทำ New High สะท้อนทิศทางตลาดปรับตัวลง

"แนวโน้มสัปดาห์หน้าตลาดยังมีโอกาสปรับลงต่อ แต่ระหว่างทางอาจมีการรีบาวนด์ขึ้นมาได้บ้างตามพัฒนาการของประเด็นการเมืองในประเทศ แต่อัปไซด์ไม่ไกลมาก เพราะยังต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป และปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์เศรษฐกิจจีน ซึ่งช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,535 จุด และแนวรับที่ 1,507 จุด" นายณรงค์เดช กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น