หุ้นไทยปิดตลาดพุ่ง +9.25 จุด โบรกฯชี้ ตลาดรับลูกโหวตเลือกนายกสัปดาห์หน้า หลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ห้ามเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสองโดยประธานสภากำหนดวันโหวตนายก 22 ส.ค.นี้ มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,540 จุด แนะจับตามปัจจัยต่างประเทศอาจส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +9.25 จุด หรือ +0.61% โดยปิดตลาดที่ 1,528.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,037.12 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้ดี โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,531.08 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,512.08 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 324 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 171 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 145 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +782.30 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -555.99 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -61.70 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -164.61 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,344.23 ล้านบาท ปิดที่ 127.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
2.BH มูลค่าการซื้อขาย 1,870.52 ล้านบาท ปิดที่ 260.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท
3.HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,661.42 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,492.50 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,485.06 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่260.00 เพิ่มขึ้น 11.00บาทหรือ 4.42%
2.SCC ปิดที่317.00 เพิ่มขึ้น 4.00บาทหรือ 1.28%
3.CBG ปิดที่78.00 เพิ่มขึ้น 2.25บาทหรือ 2.97%
4.CENTEL ปิดที่ 43.00 เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 4.88%
5.JMART ปิดที่ 19.80 เพิ่มขึ้น 1.70 บาทหรือ 9.39%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่158.00 บาท ลดลง 2.50บาทหรือ 1.56%
2.TOP ปิดที่51.50 บาท ลดลง 0.75 บาทหรือ 1.4%
3.KTC ปิดที่ 45.25 บาท ลดลง 0.50บาทหรือ 1.09%
4.TISCO ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง0.50บาทหรือ 0.50%
5.CK ปิดที่ 21.70 บาทลดลง 0.30 บาท หรือ 1.36%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,092.52 จุด เพิ่มขึ้น 13.07 จุด หรือ 0.63% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 944.29 จุด เพิ่มขึ้น 5.41 จุด หรือ 0.58% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 459.95 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด หรือ 1.23%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ดีตอบรับข่าวดีการเมืองไทย หลังจากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้วินิจฉัยมติรัฐสภาห้ามเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง ทำให้กระบวนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเดินหน้าต่อได้ โดยประธานรัฐสภากำหนดวันโหวต 22 ส.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้น BH ที่ปรับตัวขึ้นมาแรง จากผลประกอบการไตรมาส 2/66 ออกมาดีกว่าคาด และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อในครึ่งปีหลังนี้ ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดตลาดน่าจะพักตัวหลังขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว และนักลงทุนรอติดตามความชัดเจนของการโหวตเลือกนายกฯ ในสัปดาห์หน้า พร้อมแนะติดตามการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐคืนนี้ ตลาดคาดไว้ที่ 2.4 แสนราย หากออกมาต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยลบ โดยประเมินกรอบการลงทุนแนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้านที่ 1,540 จุด