หุ้นไทยปิดตลาดร่วงแรง -21.27 จุด นักวิเคราะห์ชี้ปัจจัยการเมืองในประเทศยังคลุมเครือ การจัดตั้งรัฐบาลยังยืดเยื้อไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลัง ศาลรัฐธรรมนูญได้เลื่อนการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.กระทบความเชื่อมั่นการลงทุน อีกทั้งปัจจัยต่างประเทศยังมีแรงกดดันจากฟิทซ์ปรับลดลดเครดิตของสหรัฐ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,540 จุด และแนวรับที่ 1,520 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 3 ส.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -21.27 จุด หรือ -1.37% โดยปิดตลาดที่ 1,529.01 จุด มูลค่าซื้อขาย 51,342.55 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,546.11 จุด ในทางกลับกันทิศทางขาลงที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,528.63 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 124 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 157 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 361 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +4,097.50 ล้านบาท และ ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,930.81 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -123.88 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,042.81 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,052.70 ล้านบาท ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,645.87 ล้านบาท ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,637.00 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,478.19 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
5.KCG มูลค่าการซื้อขาย 1,476.36 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.20 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 218.00 บาท เพิ่มขั้น 5.00 บาทหรือ 2.35%
2.FORTH ปิดที่ 31.25บาท เพิ่มขั้น 1.75บาทหรือ 5.93%
3. DOHOME ปิดที่ 9.85บาท เพิ่มขั้น 0.35บาทหรือ 3.68%
4.BCH ปิดที่ 18.10บาท เพิ่มขั้น 0.30บาทหรือ 1.69%
5.TQM ปิดที่ 26.50บาท เพิ่มขั้น 0.25บาทหรือ 0.95%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANC ปิดที่ 222.00 บาท ลดลง 4.00 บาทหรือ 1.77%
2.PTTEP ปิดที่ 159.50บาท ลดลง 3.00บาทหรือ 1.85%
3. KBANK ปิดที่ 123.00บาท ลดลง 2.50บาทหรือ1.99%
4.EGCOปิดที่ 130.50บาท ลดลง 2.50บาทหรือ1.88%
5.DELTAปิดที่ 112.50บาท ลดลง 2.00บาทหรือ1.75%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,093.81 จุด ลดลง -33.29 จุด หรือ -1.57% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 947.72 จุด ลดลง -15.29 จุด หรือ -1.59% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 458.01 จุด ลดลง -4.97 จุด หรือ -1.07%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลง ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจาก sentiment การลงทุนถูกดดันจากการที่ฟิทช์เรทติ้งส์ปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐ เป็นปัจจัยกดดันภาพรวมทำให้เกิดการปรับฐานหลังจากดีดขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ แม้ตลาดจะรับข่าวการเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความไม่แน่นอน การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อออกไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เมื่อต้องเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปจากกำหนดเดิมในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้เลื่อนการพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไปเป็นวันที่ 16 ส.ค.ทำให้การเมืองเกิดความไม่ชัดเจน และส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน
ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ยังไร้ปัจจัยหนุน ขณะที่การประชุมธนาคารอังกฤษ (BOE) วันนี้ตลาดคาดว่าจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อภาพรวมตลาดหุ้น ให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,520 จุด