xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยพลิกปิด +2.49 จุด แม้จัดตั้งรัฐบาลยังแบ่งเค้กไม่ลงตัว-ลุ้นผลประชุมเฟด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดพลิก +2.49 จุด หลังแกว่งสลับทั้งแดนบวกและแดนลบตลอดทั้งวัน นักวิเคราะห์ชี้ตลาดลุ้นติดตามผลการประชุมเฟด โดยเฉพาะการส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ  รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่ชัดเจนในการตั้งรัฐบาลหลังเลื่อนโหวตนายกฯ ประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดแกว่งไซด์เวย์ มองแนวต้านที่ 1,545 จุด และแนวรับที่ 1,520 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 25 ก.ค.2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +2.49 จุด หรือ +0.16% โดยปิดตลาดที่ 1,526.30 จุด มูลค่าซื้อขาย 42,460.61 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ สลับขึ้นลงทั้งแดนบวกและแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,533.74 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,519.28 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 209 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 204 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 217 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,057.99 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า-377.33 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -507.29 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -173.38 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,782.90 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,759.13 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,347.05 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,337.16 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
5.TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,314.69 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.THG ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 5.02%
2.MINT ปิดที่ 32.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 4.84%
3.SCGP ปิดที่ 40.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาท หรือ 3.90%
4.PTTGC ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 2.68%
5.TOP ปิดที่ 49.50บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 2.06%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. EGCO ปิดที่ 128.00 บาท ลดง 9.50 บาท หรือ 6.91%
2.RATCH ปิดที่ 35.25บาท ลดง 2.00บาท หรือ 5.37%
3.BH ปิดที่ 215.00บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.92%
4.CPALL ปิดที่ 61.75บาท ลด 1.25บาท หรือ 1.98%
5.KKP ปิดที่ 54.75บาท ลดง 1.00บาท หรือ 1.79%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,088.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.87 จุด หรือ 0.23% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 946.10 จุด เพิ่มขึ้น 2.09 จุด หรือ 0.22% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 461.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.85 จุด หรือ 0.18%

นายชาญชัย พันทาธนากิจ รองผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบไร้ปัจจัยใหม่ ในช่วงนี้นักลงทุนอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยเฉพาะการส่งสัญญาณต่อทิศทางดอกเบี้ยครั้งต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

"ปัจจัยร้อนแรงที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญ หลังประธานรัฐสภาสั่งเลื่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากกำหนดเดิมที่วันที่ 27 ก.ค.นี้ เพื่อรอความชัดเจนในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หลังผู้ตรวจการแผ่นดินส่งคำร้องให้วินิจฉัยประเด็นการใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ว่าเป็นการขัดขวางในการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้ปัจจัยการเมืองในประเทศยังไม่มีความชัดเจน และส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในประเทศ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวแดนบวก ซึ่งไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่" นายชาญชัย กล่าว

ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์รอการติดการประชุมเฟด รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเกิดความผันผวน ซึ่งในช่วงนี้ใกล้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียน อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นที่ผลการดำเนินงานออกมาดีได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยมองแนวต้านที่ 1,545 จุด ขณะที่แนวรับ 1,520 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น