xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยพักฐานปิดร่วง -5.78 จุด โบรกฯชี้ปัจจัยการลงทุนในต่างประเทศกดดัน แนะจับตาลุ้นการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยพักฐานปิดร่วง -5.78 จุด นักวิเคราะห์คาด แรงกดดันจากปัจจัยการลงทุนต่างประเทศเข้ามากดดัน ชี้การเมืองเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังการแถลงของพรรคเพื่อไทย มองแนวโน้มวันพรุ่งนี้ลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,570 จุด ประเมินแนวรับที่ 1,540 จุด และแนวต้าน 1,560 จุด แนวต้านถัดไป 1,570 จุด แนะจับตาการเปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยวันพรุ่งนี้

หุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 2 ส.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -5.78 จุด หรือ -0.37% โดยปิดตลาดที่ 1,550.28 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขาย 54,924.46 ล้านบาท ด้านภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีแกว่งตัวในแดนลบตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้า ก่อนที่จะพลิกกลับมาในแดนบวก แต่ก็ไม่สามารถประคองอยู่ได้ก่อนที่จะปรับตัวลดลงและปิดตลาดในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,562.07 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,546.23 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 144 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 166 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 326 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,197.77 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +529.12 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,500.46 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -226.44 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,720.93 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,084.70 ล้านบาท ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
3.BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,968.85 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,901.20 ล้านบาท ปิดที่ 9.40 บาท ลดลง 0.35 บาท
5.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,757.61 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEP ปิดที่162.50บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.88%
2.DELTA ปิดที่114.50บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.33%
3.BCP ปิดที่39.50บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.27%
4.CAP ปิดที่50.75บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.50%
5.RCL ปิดที่24.50บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.08%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BBL ปิดที่ 168.50บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.75%
2.BH ปิดที่ 213.00บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 1.39%
3.CBG ปิดที่ 71.25บาท ลดลง 1.50 บาทหรือ 2.06%
4.TIPHปิดที่ 42.00บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 2.89%
5.SAWAD ปิดที่ 46.00บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 2.65%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,127.10 จุด ลดลง -7.53 จุด หรือ -0.35% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 963.01 จุด ลดลง -3.17 จุด หรือ -0.33% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 462.98 จุด ลดลง -3.73 จุด หรือ -0.80%

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักตัวลง หลัง 2 วันก่อนหน้านี้บวกแรง และเป็นไปตามบรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศที่เป็นลบค่อนข้างมาก หลังฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ แม้ได้ปัจจัยบวกระยะสั้นๆ หลังพรรคเพื่อไทย ขอเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคก้าวไกล เนื่องจากติดเงื่อนไขเรื่องการแก้ไข ม.112 ที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคไม่สำเร็จ ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้นในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ตลาดฯ ก็ไม่สามารถยืนในแดนบวกได้ พลิกกลับมาอยู่ในแดนลบตามเดิม

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ลุ้นดัชนีฯ ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,570 จุด ในกรณีที่การจัดตั้งรัฐบาลชัดเจน โดยให้ติดตามการแถลงข่าวเปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นมากขึ้น บวกกับงบไตรมาส 2/66 ออกมาหากไม่ได้ผิดไปจากที่ตลาดคาดมากก็จะหนุนดัชนีฯ ให้ไปต่อได้ โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,540 จุด และแนวต้าน 1,560 จุด โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,570 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น