หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -14.43 จุด โบรกฯ เผยเกิดแรงเทขายตามทิศทางหุ้นต่างประเทศ อีกทั้ง Bloomberg consensus ก็ปรับลด EPS หุ้นไทยลงเหลือ 91 บาท/หุ้น หนุนให้ P/E สูงขึ้น มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ อาจมีการปรับตัวเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ประเมินแนวรับที่ 1,510 จุด และแนวต้านที่ 1,530 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ปรับตัวลดลง -14.43 จุด หรือ -0.94% โดยปิดตลาดที่ 1,520.73 จุด มูลค่าซื้อขาย 48,598.75 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายภาคเช้า จนกระทั่งปปิดตลาดในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,535.97 จุด ในทิศทางกลับกันที่เป็นขาลง โดยลดลงต่ำสุด 1,517.34 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 152 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 145 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 344หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +4,053.97 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +647.42 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่านักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -3,815.61 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -885.78 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,246.75 ล้านบาท ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,693.39 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
3.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,530.89 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,404.07 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
5.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,386.53 ล้านบาท ปิดที่ 9.25 บาท ลดลง 0.10 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BHปิดที่ 248.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.22%
2.MEGA ปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาทหรือ 5.77%
3.TQM ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 1.85%
4.TIPH ปิดที่ 40.75บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาทหรือ 1.24%
5.CPALL ปิดที่62.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาทหรือ 0.81%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.CENTELปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 6.00 บาทหรือ 12.37%
2.EGCO ปิดที่ 130.50บาท ลดลง 5.50 บาทหรือ 4.04%
3.SCC ปิดที่ 314.00บาท ลดลง 3.00 บาทหรือ 0.95%
4.PTTEP (XD)ปิดที่ 161.50บาท ลดลง 4.50 บาทหรือ 2.71%
5.DELTA ปิดที่ 103.50บาท ลดลง 2.50 บาทหรือ 2.36%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,080.94 จุด ลดลง -24.33 จุด หรือ -1.16% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 939.78 จุด ลดลง -11.45 จุด หรือ -1.20% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 458.53 จุด ลดลง -1.27 จุด หรือ -0.28%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจาก Sentiment ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง จีน สิงคโปร์ รวมถึงตลาดหุ้นยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ขณะเดียวกันตลาดก็รับรู้ปัจจัยบวกไปค่อนข้างมากแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย อีกทั้งยังมีแรง Sell on fact หลังผลประกอบการไตรมาส 2/66 ทยอยประกาศออกมา
นอกจากนี้ Bloomberg consensus ปรับลดคาดการณ์ EPS ตลาดหุ้นไทยลงเหลือ 91 บาท/หุ้น จากต้นปีอยู่ที่ 106 บาท/หุ้น ทำให้ P/E ตลาดปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 16.7 เท่า ซึ่งถือว่าไม่ถูกแล้ว
"แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาด ดัชนีฯ มีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นมาบ้าง แต่อาจอยู่ในกรอบจำกัด หลังพื้นฐานดูไม่ดี จากกำไรถูกปรับลงแรง มองแนวรับไว้ที่ 1,510 จุด และแนวต้าน 1,530 จุด" นายวทัญ กล่าวทิ้งท้าย
