ในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นับสิบแห่งกำลังเสนอขายหุ้นกู้ วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่จะประสบความสำเร็จในการระดมทุนขนาดไหนเท่านั้น
เพราะนับจากต้นปี บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งมีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ จนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุนในหุ้นกู้
บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด MAI แห่งแรกในปีนี้ที่ประกาศผิดนัดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 10.65 ล้านบาท และประกาศผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ทั้งหมดรวม 7 รุ่น วงเงิน 2,334 ล้านบาท เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา
และบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ซึ่งแต่งบัญชีตบตา ผ่องถ่ายเงินออกจากบริษัทจนเหลือแต่ซาก ส่งผลกระทบต่อการไถ่ถอนหุ้นหุ้นกู้จำนวนกว่า 9.1 พันล้านบาท ซึ่งตอกย้ำถึงความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นกู้ แม้จะออกโดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ตาม
ตลาดหุ้นกู้กำลังตกต่ำเพราะบริษัทจำนวนมากเบี้ยวหนี้ ไม่สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดเวลาไถ่ถอนได้ ทำให้นักลงทุนจำนวนนับหมื่นนับแสนรายได้รับความเดือดร้อน
แต่บริษัทจดทะเบียนนับสิบแห่งไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้ ซึ่งอาจเกิดจากฐานะการเงินมีความเสี่ยงจนสถาบันการเงินไม่กล้าปล่อยกู้ รวมทั้งไม่มีหลักประกันในการขอสินเชื่อด้วย จึงต้องระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ โดยยอมจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงๆ เพื่อจูงใจนักลงทุน
ดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กว่า 10 แห่งที่เสนอขายในเดือนสิงหาคม กำหนดอัตราระหว่าง 3.60% ถึง 7.50% ตามความเสี่ยงของแต่ละบริษัท โดยหุ้นกู้ที่ออกมีทั้งหุ้นกู้ที่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับเครดิต และหุ้นกู้ที่ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รวมทั้งหุ้นกู้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน
ประกอบด้วยหุ้นกู้ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME หุ้นกู้บริษัท อาริยา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ A
หุ้นกู้บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK
หุ้นกู้บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN หุ้นกู้บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD หุ้นกู้บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S หุ้นกู้ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ TNITY หุ้นกู้ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP
หุ้นกู้บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP หุ้นกู้บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ KUN หุ้นกู้บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR หุ้นกู้บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF และหุ้นกู้บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS
การลงทุนในหุ้นกู้เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกของผู้มีเงินออม เพราะผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และนักลงทุนนิยมซื้อหุ้นกู้
แต่หลายปีที่ผ่านมา หุ้นกู้มีปัญหาผิดนัดชำระหนี้ หรือถึงขั้นไม่มีปัญญาไถ่ถอนหุ้นกู้ เพราะบริษัทจดทะเบียนผู้ออกหุ้นกู้เกิดปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว ตกอยู่ในสภาพล้มละลาย ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินต้นทั้งจำนวน จนเกิดความระมัดระวังการลงทุนหุ้นกู้มากขึ้น
เพราะมีความเสี่ยงที่การลงทุนในหุ้นกู้จะเกิดความเสียหายถึงขั้นหมดตัวเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นสามัญ ทั้งที่การลงทุนหุ้นกู้มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นสามัญ
การระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทไม่ประสบความสำเร็จนัก โดยเฉพาะบริษัทที่มีภาพลักษณ์ตกต่ำ มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงสูงที่เงินลงทุนจะเสียหาย
เช่นเดียวกับหุ้นกู้ที่กำลังทยอยเสนอขายในเดือนสิงหาคมนี้ หุ้นกู้บริษัทจดทะเบียนบางแห่งอาจขายฝืด แม้กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้สูงก็ตาม
ลงทุนหุ้นกู้วันนี้ถ้าไม่พิถีพิถัน ไม่เลือกเฟ้นบริษัทจดทะเบียนผู้ออกหุ้นกู้ และตาโตอยากได้ดอกเบี้ยอย่างเดียว เงินต้นหายเอาง่ายๆ เหมือนกัน