คดีปล้นครั้งยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กระตุ้นให้สังคมเกาะติดสถานการณ์ เพราะอยากรู้ว่าคดีจะจบลงอย่างไร กลุ่มผู้บริหารบริษัทฯ ที่ถูกกล่าวโทษต้องชดใช้กรรมติดคุกหรือไม่
แต่ทุกคนลืมไปแล้วว่า ก่อนหน้านี้มีคดีปล้นในบริษัทจดทะเบียนหลยแห่ง และเคยตกเป็นข่าวดัง สร้างความวอดวายให้นักลงทุนจำนวนเกือบครึ่งแสนราย ซึ่งคดีเงียบหายไปหลายปีแล้ว
33 คดีหุ้นดังที่มีการทุจริต สร้างหนี้เทียม เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน และถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษประกอบด้วย คดีบริษัท โพลารีส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR
คดีบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC และคดีบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH
คดี POLAR เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 ก.ล.ต.กล่าวโทษคณะกรรมการบริษัทกับพวกรวม 11 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีร่วมกันสร้างหนี้เทียมจำนวนประมาณ 3.6 พันล้านบาท เพื่อให้ POLAR เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
รวมทั้งลงข้อความเท็จในบัญชีหรือเอกสาร พยายามเบียดบังเอาทรัพย์สินของ POLAR เป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต และพยายามแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นซึ่งทำให้ POLAR เสียหาย
บุคคลที่ถูกกล่าวโทษ ประกอบด้วยกรรมการ POLAR 5 ราย คือ นายญาณกร วรากุลรักษ์ นายพูนศักดิ์ ชุมช่วย นายอาสา นินนาท นายฐากร ทวีศรี และนายดนุช บุนนาค ส่วนบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นอีก 6 รายปะกอบด้วย บริษัท ซิมบา อินเตอร์ จำกัด นายอัครเดช วัฒนะ นายธัญพงศ์ ลิ้มวงศ์ยุติ บริษัท ยูไนเต็ด เทรดดิ้ง กรุ๊ป จำกัด นายอภิรักษ์ จูตระกูล และนายกำแหง หุ่นหิรัณย์สาย
หุ้น POLAR ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ราคาปิดครั้งสุดท้าย 9 สตางค์ มีผู้ถือหุ้นรายย่อยติดค้างอยู่ 11,523 ราย ทุกคนเสียหายหมดตัว โดยหุ้นถูกย้ายเข้ากลุ่มฟื้นฟูการดำเนินงาน
คดี IFEC ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหารบริษัทหลายคดีแทบนับไม่ถ้วน โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 ก.ล.ต. กล่าวโทษนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตจากการไม่เปิดเผยข้อมูลการผิดนัดชำระตั๋วแลกเงิน
วันที่ 28 มกราคม 2563 ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการและผู้บริหาร IFEC รวม 4 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีจริตต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการที่ IFEC ซื้อที่ดินและอาคารสำนักงาน 7 ชั้น จนเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ผู้ถูกกล่าวโทษประกอบด้วย นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ ขณะเกิดเหตุเป็นรองประธานกรรมการ รองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการของ IFEC นายฐนวัฒน์ จันทร์สุวรรณ ขณะเกิดเหตุ เป็นกรรมการบริหาร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป และเลขานุการของ IFEC นางสมศรี ชูกิจสมบูรณ์ และนายอภิชาติ วัฒนภูษิตสกุณ
วันที่ 19 มิถุนายน 2563 ก.ล.ต.กล่าวโทษนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ กับพวกรวม 5 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีทุจริตแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการที่ IFEC ซื้อหุ้นของบริษัท ซีอาร์ โซลาร์ จำกัด หรือ CRS ในช่วงปี 2557-2558 เป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ขณะเกิดเหตุนายวิชัย เป็นประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร และนายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ ผู้ถูกกล่าวโทษรายที่ 2 เป็นรองประธานกรรมการ รองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ
IFEC ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP พักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ราคาปิดครั้งสุดท้าย 35 สตางค์ และมีผู้ถือหุ้นรายย่อยติดค้างอยู่ 19,849 ราย ทุกคนเสียหายหมดตัว โดยหุ้นอยู่ในข่ายถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์
และคดี EARTH ก.ล.ต.กล่าวโทษผู้บริหารบริษัทในความผิดมากมาย แต่คดีสำคัญคือ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 ก.ล.ต.กล่าวโทษกรรมการและผู้บริหาร EARTH พร้อมพวกรวม 17 รายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีสร้างหนี้เทียม จำนวน 2.6 หมื่นล้านบาท และกล่าวโทษกรรมการ 11 ราย กรณีลงข้อความเท็จ รวมทั้งยังมีคดีถูกกล่าวโทษผู้บริหารกับพวกรวม 14 ราย สร้างราคาหุ้นด้วย
หุ้น EARTH ถูกตะเพิดพ้นตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยติดค้างจำนวนประมาณ 1.6 หมื่นราย และทุกคนสูญสิ้นเงินลงทุนทั้งหมด
คดี POLAR IFEC และ EARTH ล้วนสร้างความเสียหายร้ายแรงให้ประชาชนทั้งสิ้น และ ก.ล.ต.ได้ทำหน้าที่อย่างดี รวบรวมข้อมูลหลักฐาน กล่าวโทษผู้บริหารที่กระทำความผิดไปแล้วทั้ง 3 คดี
แต่ 5 ปีมาแล้ว ไม่เคยมีคำชี้แจงจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปอส.ว่า คดีมีความคืบหน้าอย่างไร มีการเป่าคดีเหมือนคดีทุจริต ยักยอกทรัพย์ ไซฟ่อนเงินออกจากบริษัทจดทะเบียน สร้างหนี้เทียมและคดีปั่นหุ้นหลายสิบคดีไปแล้วก่อนหน้าหรือไม่
สังคมกำลังพุ่งความสนใจไปที่คดี STARK จนลืมไปว่ายังมีอีก 3 คดีดัง และสร้างความเสียหายใหญ่หลวงไม่น้อยกว่าอาชญากรรมที่ผู้บริหาร STARK ก่อขึ้นเสียอีก
จะมีใครสอบถาม ขุดคุ้ยกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปอศ.หรือไม่ว่า 3 คดีดังหุ้น POLAR หุ้น IFEC และหุ้น EARTH ถูกดองหรือแช่แข็งไว้จุดไหน
5 ปีผ่านไป ทำไมกรมสอบสวนคดีพิเศษและ ปอศ. จึงไม่แถลงใดๆ เกี่ยวกับการสอบสวนทั้ง 3 คดีดัง
และทำไมอาชญากรที่ปล้นเงินประชาชนผู้ลงทุนในตลาดหุ้นเกือบ 5 หมื่นชีวิตจึงยังลอยนวลอยู่
