xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ คาดงบ CPF โค้ง 2 จ่อขาดทุน หลังราคาหมูหด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



4 โบรกเกอร์ประสานเสียง ผลงานไตรมาส 2/66 ของ CPF จ่อขาดทุนประมาณ 1.4-2.6 พันล้านบาท หลังราคาหมูในประเทศ และในจีนอ่อนแอลง จากปัญหาการลักลอบนำเข้าหมู คาดลากยาวไปถึงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่การบริโภคในประเทศมีแนวโน้มชะลอกว่าที่คาด เล็งปรับเป้ากำไร และราคาเป้าหมายปีนี้ลง ทรีนีตี้ลดเป้าเหลือ 20 บาท แนะนำถือ ส่วนพาย และเคจีไอยังแนะนำซื้อ

ทรีนีตี้คาดขาดทุนแตะ 1.44 พันล้านบาท หั่นเป้าเหลือ 20 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ในไตรมาส 2/66 คาดว่าขาดทุนสุทธิที่ 1,441 ล้านบาท ดีขึ้นจากที่ขาดทุน 2,725 ล้านบาทในไตรมาส 1/66 แต่ลดลงจากกำไร 4,208 ล้านบาทในไตรมาส 2/65 โดยในไตรมาสนี้ราคาหมูไทยยังอ่อนตัวลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ราว 72.5 บาท/กก. จากปัญหาหมูลักลอบนำเข้า และ ผลผลิตในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาไก่จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 43-44 บาท/กก. จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ทำให้ในภาพรวมธุรกิจฟาร์มสัตว์บกในไทยอาจดีขึ้นเล็กน้อย QoQ แต่ยังค่อนข้างอ่อนแอ

ขณะที่ราคาหมูเวียดนามปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ราว 55,000 ด่อง/กก. ทำให้ผลประกอบการของธุรกิจในเวียดนามปรับตัวดีขึ้นมาบ้าง และอาจมีกำไรจากการวัดมูลค่าสินทรัพย์ชีวภาพมาช่วยหนุน ด้านราคาหมูจีนยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำที่ราว 14 หยวน/กก. ส่งผลให้เราคาดจะยังเห็นส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบริษัทร่วม

โดยสรุปคาดรายได้ดีขึ้น 2%QoQ และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเล็กน้อยราว 41 bps มาอยู่ที่ 11.24% จากปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวของราคาหมูในเวียดนาม แต่ราคาหมูในไทย และจีนที่ยังตกต่ำยังเป็นปัจจัยกดดัน

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 66 ลงเพิ่มเติมอีกราว 44% จากประมาณการก่อนหน้า เหลือ 2,282 ล้านบาท หดตัว 84%YoY จากแนวโน้มกำไรงวดครึ่งปีที่คาดว่าจะขาดทุนรวมราว 4 พันล้านบาท ขณะที่กำไรครึ่งปีหลังคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างจากราคาหมูจีนที่อาจฟื้นตัวได้บ้างจากฐานต่ำ ขณะที่เริ่มเห็นแนวโน้มการปรับตัวลงของราคาวัตถุดิบ ซึ่งอาจช่วยให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นบ้าง แต่ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจกระทบต่อการบริโภคทำให้ราคาสัตว์บกปรับตัวลง และภาวะ El Nino ที่อาจส่งผลให้ราคาวัตถุดิบกลับมาสูงขึ้น

โดยได้ปรับลดราคาเป้าหมายปี 66 ลงเหลือ 20 บาท อิง PBV 0.66 เท่า ด้วยแนวโน้มราคาหมูในไทย และจีนที่ยังตกต่ำ บวกกับความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจโลก และภาวะ El Nino ทำให้คงคำแนะนำเพียง “ถือ”

KGI คาด Q2/66 ขาดทุน 2.34 พันล้านบาท หลังราคาหมูในจีนยังอ่อนแอ

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPF จะมีผลขาดทุนสุทธิ 2.34 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/66 (-156% YoY, จากขาดทุน 2.73 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66) โดยสาเหตุสำคัญ คือ ผลการดำเนินงานของ CTI ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาหมูในจีนอ่อนแออยู่ที่ CNY14.3/กก. (-6% YoY และ -6% QoQ) โดยคาดว่า CTI จะส่งผลขาดทุนมาที่ CPF 3.5 พันล้านบาทในไตรมาส 2/66 จากที่ส่งผลขาดทุน 2.3 พันล้านบาทในไตรมาส 1/66 และ 1.5 พันล้านบาทในไตรมาส 2/65

อย่างไรก็ตาม คาดยอดขายจะทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 9% QoQ เป็น 1.573 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาหมูในเวียดนาม และประเทศอื่นๆ ขยับสูงขึ้น โดยคาดว่า ยอดขายในประเทศไทยจะทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากราคาหมูและกุ้งที่ลดลงหักล้างไปกับราคาไก่ที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันคาดว่ารายได้จากจีน (ธุรกิจอาหารและฟาร์มไก่) จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เพราะได้อานิสงส์จากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

ทางด้านแนวโน้มในครึ่งปีหลังยังคงท้าทาย เพราะราคาหมูที่อ่อนแอในประเทศจีนน่าจะลากยาวไปถึงครึ่งหลังของปีนี้จากภาวะอุปทานล้นตลาด และอุปสงค์การบริโภคที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ราคาหมูที่ตกหนักในประเทศไทยในช่วงนี้ยังทำให้สมมติฐานมี downside อีกเพราะปัญหาการนำเข้าหมูเถื่อนยังคงเป็นประเด็นค้างคาอยู่ต่อไป ในขณะเดียวกัน การบริโภคในประเทศมีแนวโน้มจะแผ่วกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำซื้อ CPF โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 24.50 บาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/66 จะอ่อนแอ และยังมี downside ในครึ่งปีหลังอีกจึงแนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ไปก่อนจนกว่าจะมีพัฒนาการด้านบวกของราคาหมูในประเทศไทย และจีน

UOBK มองราคาหมูในไทย-จีนยังต่ำ ฉุดผลงานขาดทุน

บริษัทหลักทรัพย์ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPF จะมีผลขาดทุนสุทธิที่ 1,715 ล้านบาท ในไตรมาส 2/66 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากผลขาดทุนสุทธิจำนวน 2,725 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 แต่ลดลงจากกำไรสุทธิจำนวน 4,208 ล้านบาท ในไตรมาส 2/65 ปัจจัยลบที่สำคัญ คือ ราคาหมูในประเทศที่ลดลงเป็น 79 บาท/กก. ในไตรมาส 2/66 ซึ่งลดลง 10% qoq และ 19% yoy จากไตรมาส 1/66 และไตรมาส 2/65 ตามลำดับ ในขณะเดียวกันราคาหมูของจีนยังอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้ ยังคงคาแนะนำถือ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 20 บาท เพื่อสะท้อนถึงการฟื้นตัวของกำไรในปี 67 หลังจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจกลับสู่ภาวะปกติ และการปรับตัวดีขึ้นของการดำเนินธุรกิจสุกรในจีน แม้ว่า คาดว่ากำไรหลักจะดีขึ้น qoq ในไตรมาส 2/66 แต่ราคาหุ้นของ CPF น่าจะต่ำกว่าคู่แข่ง เนื่องจากโมเมนตัมกำไรระยะสั้นที่ไม่น่าตื่นเต้น

บล.พายยังแนะนำซื้อ ได้ราคาหมูเวียดนาม-ไก่พยุง

ส่วนบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CPF ในไตรมาส 2/66 ยังคงขาดทุนที่ 2,637 ล้านบาท โดยแรงกดดันหลักมาจากราคาสุกรที่ลดลงทั้งไทย และจีน แม้ว่าราคาสุกรที่เวียดนาม และราคาไก่ในประเทศจะมีราคาปรับตัวดีขึ้น

ด้านรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% YoY และ 10% QoQ เป็นผลตามฤดูกาล และตลาดส่งออกไก่ที่ยังดูดี โดยแนวโน้มราคาเนื้อสุกรคาดว่าจะค่อยๆ เห็นการฟื้นตัวได้ เพราะราคาปัจจุบันผู้ผลิตขาดทุนแล้ว ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการช่วงที่เหลือของปีมีโอกาสฟื้นขึ้นได้ จึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมที่ 28 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น