หลังถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนัก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จึงยอมใช้อำนาจเต็มอัตราศึกเข้าควบคุมธุรกรรมทางการเงิน สั่งยึดทรัพย์ และห้ามผู้บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เดินทางออกนอกประเทศ
นับแต่ก่อตั้งมา 31 ปี เป็นครั้งแรกที่ ก.ล.ต. ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ แก้ปัญหาบริษัทจดทะเบียนที่มีพฤติกรรมทุจริต ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน สร้างข้อมูลเท็จเพื่อหลอกลวงประชาชนผู้ลงทุน
ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผานมา มีบริษัทจดทะเบียนที่ก่อความผิดร้ายแรงในลักษณะเดียวกับ STARK เกิดขึ้นแล้วนับสิบๆ คดี เพียงแต่ ก.ล.ต.ไม่เคยใช้อำนาจตามที่กฎหมายมอบให้เพื่อระงับยับยั้งความเสียหายไม่ให้ลุกลาม ปล่อยให้การไซฟ่อนผ่องถ่าย ยักย้ายทรัพย์สินดำเนินต่อไป
ปล่อยให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนสูบเงินออก จนบริษัทจดทะเบียนเหลือแต่ซาก โดยประชาชนผู้ลงทุนที่ถือหุ้นนับแสนๆ คนต้องรับเคราะห์ เพราะเสียหายย่อยยับ
ถ้าผู้ถือหุ้นกู้และประชาชนผู้ลงทุนใน STARK ไม่ลุกฮือขึ้นมาทวงถามความรับผิดชอบของ ก.ล.ต. ถ้ากระแสสังคมไม่เรียกร้องให้ ก.ล.ต. ใช้อำนาจที่มีอยู่ล้นฟ้า
และถ้าปฏิบัติการปล้นของผู้บริหาร STARK ไม่โจ๋งครึ่มเกินไป สร้างความเสียหายใหญ่หลวง สั่นสะเทือนตลาดหุ้น
การแก้ปัญหา STARK คงดำเนินไปด้วยความอืดอาดล่าช้า น่าเบื่อน่ารำคาญ ขณะที่การไซฟ่อน ผ่องถ่ายถูกปล่อยให้ดำเนินต่อจน STARK เหลือแค่ซาก
และประชาชนผู้ถือหุ้นต้องรับกรรมเช่นเดียวกับบริษัท อินเตอร์ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC บริษัท โพลาริส แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH และบริษัทจดทะเบียนมหาโกงอื่นๆ อีกมากมาย
ถ้า ก.ล.ต. มีความกล้า มีความตระหนักถึงความเสียหายของประชาชนผู้ลงทุน และใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตรวจสอบการทุจริต กล่าวโทษผู้บริหารบริษัท เข้าควบคุมธุรกรรมทางการเงิน อายัดทรัพย์และห้ามผู้บริหารบริษัทเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่ STARK ไม่ส่งงบการเงินปี 2565 และเริ่มมีเบาะแสการทุจริต
บางทีอาจช่วยตัดตอนขบวนการผ่องถ่าย หยุดยั้งการโยกย้ายทรัพย์สิน และลดความสูญเสียของ STARK ไม่ให้ร้ายแรงเกินเยียวยา
แต่ ก.ล.ต.ตัดสินใจช้าไป วันนี้ STARK จึงไม่เหลืออะไร วันนี้เงินลงทุนของประชาชนจึงมีค่าเป็นศูนย์
และวันนี้ นายชนินทร์ เย็นสุขใจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK อาจเผ่นหนีไม่ทัน ไม่สามารถหอบเงินก้อนโตที่ได้จากการปล้นไปเสวยสุขในต่างประเทศ
เงินจำนวน 100 ล้านบาทที่ตำรวจตรวจเจอ และอายัดไว้อย่าเพิ่งดีใจ เพราะเป็นเพียงเศษเงินที่ได้จากการปล้น ซึ่งนายชนินทร์ทิ้งไว้ให้ ก.ล.ต.ดูต่างหน้าเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด รุกฆาตแก๊งที่ร่วมปล้น STARK ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ในการทำงานของ ก.ล.ต.
นับจากนี้บริษัทจดทะเบียนที่มีเบาะแสการทุจริต และอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงให้ประชาชนผู้ลงทุนในวงกว้าง ก.ล.ต.จะต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในทันที เช่นเดียวกับ STARK
เพราะถ้า ก.ล.ต.อืดอาดล่าช้าในการทำงาน ขาดความกล้าในการประกาศใช้มาตรการที่เด็ดขาดฉับไว นักลงทุนจะลุกฮือกดดัน ก.ล.ต.กันอีก
การปล้นทรัพย์สินของผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คงไม่หมดไปจากตลาดหุ้น หายนะจาก STARK ภาค 2 และ STARK ภาค 3 คงจะมีตามมา
แต่การระงับยับยั้งความเสียหายจะเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น เพราะบทเรียนจาก STARK ภาคแรก สอน ก.ล.ต. ให้รู้แล้วว่า จะต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อปกป้องเยียวยาประชาชนผู้ลงทุนโดยเร็วที่สุด
บทเรียนจากหายนะหุ้น STARK เป็นบทเรียนที่มีราคาแพงมาก เพราะประชาชนผู้ลงทุนที่ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้เกือบ 2 หมื่นชีวิตต้องเซ่นสังเวยให้แก๊งปล้น STARK
