บมจ.เฮงลิสซิ่ง แอนด์แคปปิตอล ประเมินตลาดสินเชื่อครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีจากแรงส่งภาคการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อความต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปประกอบอาชีพพุ่ง แม้มีความท้าทายด้านอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและภาครัฐคุมเข้ม เดินหน้ารุกตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เพิ่มสัดส่วนเป็น 60-65% หนุนพอร์ตสินเชื่อเติบโตตามเป้าหมาย
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายภายใต้แบรนด์ ‘เฮงลิสซิ่ง’ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนมีความต้องการแหล่งเงินทุนเพื่อนำไปประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น หลังเศรษฐกิจไทยปีนี้มีสัญญาณการเติบโตที่ดี จึงเป็นโอกาสของ HENG นำความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สินเชื่อเข้าไปตอบสนองต่อความต้องการแหล่งเงินทุนให้แก่ประชาชนในแต่ละท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายจากนโยบายภาครัฐที่เข้ามาควบคุมการปล่อยสินเชื่อและดอกเบี้ย ซึ่งมีโอกาสเพิ่มขึ้น ทำให้การบริหารงานต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด ดังนั้น จึงได้ปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อเอาชนะความท้าทายและขับเคลื่อนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจสร้างการเติบโตที่ดีต่อไป
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ จะมุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง ขณะเดียวกัน จะมุ่งบริหารจัดการควบคุมคุณภาพพอร์ตสินเชื่อให้ดีต่อเนื่อง โดยจะดูแลหนี้สงสัยจะสูญ (NPLs) ทั้งปีลดลงเหลือ 3% ควบคู่กับการดำเนินงานภายใต้แนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) โดยมุ่งหวังให้หุ้น HENG เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าสู่ดัชนีหุ้นยั่งยืน หรือ THSI จากการจัดอันดับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนตามแนวทางของการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ
นายพัฒน์พงษ์ ผาทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ HENG กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2566 ที่ผ่านมานั้น ผลการดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตามแผนงานที่ตั้งไว้ในเกือบทุกด้าน จากการที่บริษัทได้ปรับแผนการปล่อยสินเชื่อมาเน้นที่สินเชื่อจำนำทะเบียนมากขึ้น หลังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ควบคุมอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อให้อยู่ในระดับ 15% ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถมีเพดานอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 24% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทใช้จะอยู่ที่ 22-23% ทำให้สามารถรักษาระดับรายได้ให้กลับมาขยายตัวได้ จึงเชื่อว่ากำไรในไตรมาส 2 สูงขึ้นอย่างแน่นอน
"เราได้ปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ สคบ.ได้ประกาศคุมเพดานอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ โดยห้นมาเน้นปล่อยกู้จำนำทะเบียนรถเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2563 ที่มีสัดส่วนเพียว 21% เพิ่มขึ้นมา 46%ในไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่า ณ สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 65% ขณะที่การแข่งขันในธุรกิจดังกล่าวที่ค่อนข้างสูงนั้น บริษัทมองว่าแม้ในตลาดจะมีผู้เล่นรายใหญ่ๆเพิ่มขึ้น แต่ความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน จึงทำให้เรายังมีโอกาสเติบโตได้อีก ขณะที่การดูแลสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นั้นยังสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี โดยในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ระด้บ 3.1% แต่ยังมั่นใจว่า ณ สิ้นปีจะอยู่ในระดับ 2.9% ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ โดยปัจจุบันสินเชื่อของบริษัท 95% เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน"
สำหรับเป้าหมายผลักดันการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรวมในปีนี้เป็น 14,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อรวม 12,020 ล้านบาท เติบโต 20-30% โดยมุ่งขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่มีศักยภาพและการเติบโตสูง มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อกลุ่มดังกล่าวเป็น 55-60% ของพอร์ตสินเชื่อรวม โดยนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันของ ‘เฮงลิสซิ่ง’ ที่มีทีมพนักงานเป็นคนในพื้นที่ เข้าใจภาษาถิ่น วัฒนธรรมและวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมต่อความต้องการลูกค้า สร้างโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนภายใต้หลักการให้บริการที่เป็นธรรม โปร่งใส และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า พร้อมพันธมิตรผู้ประกอบการเต็นท์รถมือสองทั่วประเทศที่มีแผนขยายความร่วมมือกับผู้ประกอบการเต็นท์รถเพิ่มเป็น 6,500 แห่ง จากเดิม 5,100 แห่ง เพื่อให้คำแนะนำและส่งต่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่สาขา ‘เฮงลิสซิ่ง’ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดครบ 830 สาขา ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งยกระดับการให้บริการสินเชื่อผ่านพนักงานสาขาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อได้อย่างเหมาะสม รวมถึงใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเพิ่มประสิทธิภาพการพิจารณาสินเชื่อและอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบยืนยันตัวตน สร้างโอกาสให้แก่ลูกค้าใหม่เข้ามาใช้บริการได้ง่ายขึ้น และสามารถคัดเลือกลูกหนี้ที่มีคุณภาพ ป้องกันการผิดนัดชำระ ประกอบกับมีทีมจัดเก็บหนี้ช่วยลดปัญหาการผิดนัดชำระและปัญหาหนี้ NPLs ให้เป็นไปตามแผน