สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น ร่อนหนังสือแจ้งตลาดหุ้นถึงความคืบหน้าการจัดทำงบการเงิน และการดำเนินการต่างๆ หวังปลดล็อกให้กลับมาซื้อขายได้อีกครั้ง หลังนักลงทุนเข้าร้องทุกข์ต่อ ก.ล.ต.
นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการและผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ส่งหนังสือแจ้งต่อตลาดหลักทรัพยบ์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท.ว่า ตามที่บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ได้ชี้แจงการดำเนินการของบริษัทผ่านระบบเผยแพร่สารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีใจความว่าบริษัทคาดว่าจะสามารถนำส่งงบการเงินประจำปี 2565 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีได้ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 และบริษัทอยู่ระหว่างว่าจ้างผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special Audi) รวมถึงการชี้แจงเรื่องมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK249A ที่มีมติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัดและใช้สิทธิเรียกให้บริษัทชำระหนี้เงินต้นพร้อมทั้งดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้โดยพลัน และการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับพฤติการณ์อันควรสงสัยในประเด็นการดำเนินงานและปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ ผู้จัดการ และ/หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบริษัทตามนัยมาตรา 89/25 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่อ้างถึง 1-3) และตลาดหลักทรัพย์ได้ขอให้บริษัทให้ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
บริษัทจึงขอเรียนชี้แจงความคืบหน้าและข้อมูลสถานการณ์ของบริษัทเพิ่มเติม ดังนี้
1.ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 บริษัทได้ให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้สอบบัญชีราย บริษัท ไพร้ช วอเตอร์ เฮ้าส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด (PWC) ในการร่วมวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินและบัญชีของบริษัทในการตรวจสอบบัญชีและจัดทำงบการเงิน ประจำปี 2565 ตามแผนการดำเนินงานที่ได้ชี้แจงต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ และการดำเนินการดังกล่าวมีความคืบหน้าอย่างมาก ผู้สอบบัญชีจึงคาดการณ์ว่าจะสามารถออกงบการเงินฉบับตรวจสอบได้ภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566
เมื่อผู้สอบบัญชีจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะดำเนินการเรียกประชุมสามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นเพื่อรับรองงบการเงินประจำปี 2565 และแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2566 ระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2566
2.ความคืบหน้าของการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit)
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทได้มีมติอนุมัติการแต่งตั้งให้ PwC เป็นผู้สอบบัญชีเพื่อดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended -scope special audit) เนื่องจาก PWC เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบพิเศษ (special audit) แต่เดิมมีความรู้ความเข้าใจต่อข้อมูลของบริษัทเป็นอย่างดี สามารถดำเนินการตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลโดยไม่ชักช้า จึงเป็นผู้สอบบัญชีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดำเนินการดังกล่าว
บริษัทได้ประสานงานและส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อขอรายการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีธนาคาร (bank statement) ของบริษัทและบริษัทย่อยมาเปรียบเทียบกับรายการรับจ่ายเงินที่บันทึกอยู่ในบัญชี (general ledger) และรายการทางบัญชีที่เกี่ยวข้องตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ตรวจสอบเพิ่มเติม แม้ว่าบริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าวจากหลายธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีข้อมูลหลายส่วนที่บริษัทยังรอข้อมูล หรือตรวจพบข้อจำกัดเกี่ยวกับการตรวจสอบย้อนกลับ
เนื่องจากการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติมมีเอกสารและข้อมูลที่ต้องตรวจสอบเป็นจำนวนมากเพื่อให้ครอบคลุมธุรกรรมการขาย ลูกหนี้ การรับชำระหนี้ของบริษัทย่อยรายที่สำคัญ จำนวน 4 ราย ช่วงระหว่างปี 2564 ถึงปี 2565 รวมถึงการเปรียบเทียบรายการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีธนาคาร (bank statement) กับรายการรับจ่ายเงินที่บันทึกอยู่ในบัญชี (general ledger) ในช่วงระหว่างปี 2564 ถึงเดือนเมษายน 2566 และปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบย้อนกลับข้างตัน บริษัทและผู้สอบบัญชีได้ประเมินความพร้อมของข้อมูลร่วมกัน และคาดว่าจะไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit) ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ได้ บริษัทจึงได้ขอความอนุเคราะห์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในการขยายระยะเวลาเพื่อดำเนินการในส่วนนี้อีก 30 วัน เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างหมาะสมและเพียงพอต่อการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในงบการเงินตามวัตถุประสงค์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด
ทั้งนี้ ผู้สอบบัญชีคาดว่าจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษตามขอบเขตที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ขยายผลเพิ่มเติม (extended-scope special audit) ภายในเดือนกรกฎาคม 2566 และบริษัทจะรายงานความคืบหน้าตลอดจนปัญหาอุปสรรคของการดำเนินงานให้ทราบเป็นระยะ
3.สถานการณ์และผลกระทบต่อบริษัทอันสืบเนื่องจากการถูกเรียกให้ชำระหนี้หุ้นกู้ รวมถึงแนวทางดำเนินการเพื่อชำระหนี้คงค้างต่างๆ ของบริษัทเนื่องจากผู้ถือหุ้นกู้ของหุ้นกู้หมายเลข STARK239A และ STARK249A ได้มีมติไม่ยกเว้นเหตุผิดนัดและใช้สิทธิเรียกให้หนี้เงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้ทั้งหมดถึงกำหนดชำระโดยพลัน จึงเป็นเหตุให้หนี้เงินต้นค้างชำระรวมจำนวน 2,241,000,000 บาทและดอกเบี้ยภายใต้หุ้นกู้หมายเลขดังกล่าวถึงกำหนดชำระโดยพลัน
เหตุผิดนัดดังกล่าวยังส่งผลให้เกิดการผิดนัดไขว้ (cross default) ในหุ้นกู้อีก 3 ชุดและสัญญาทางการเงินของบริษัท กล่าวคือ เป็นเหตุผิดนัดภายใต้ (ก) หุ้นกู้ชุด STARK245A STARK255A และ STARK242A ซึ่งมีเงินต้นค้างชำระรวม จำนวน 6,957,400,000 บาท และ (ข) สัญญาทางการเงินอื่นๆ ของบริษัท บริษัทจึงต้องดำเนินการหาทางเจรจากับเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องที่อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ทั้งหมดในลักษณะเดียวกัน
ทั้งนี้ เมื่อผู้สอบบัญชีได้เปิดเผยงบการเงินประจำปี 2565 บริษัทจะปรับปรุงและสรุปแผนธุรกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาวให้สอดคล้องกับผลประกอบการตามงบการเงินประจำปี 2565 รวมถึงแผนการขอเจรจากับเจ้าหนี้สำคัญต่างๆ (ทั้งเจ้าหนี้ทางการเงิน เจ้าหนี้การค้า และเจ้าหนี้กลุ่มอื่นๆ) เพื่อหาแนวทางบริหารการชำระหนี้ร่วมกันและป้องกันไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้ ตลอดจนลดความเสี่ยง อันเกิดจากการกระทำใดๆ ที่อาจถือเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือความเสี่ยงในการถูกเพิกถอนการชำระหนี้ โดยบริษัทจะเปิดเผยแนวทางในการดำเนินการของบริษัทเพิ่มเติมในภายหลัง
4.การดำเนินการของบริษัทในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายให้เข้ามาเร่งทำการสืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด
นอกเหนือจากการแต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและปรับปรุงระบบการควบคุมภายในให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และการตรวจสอบธุรกรรมทางเงิน ข้อมูลทางบัญชี รายการเดินบัญชี เส้นทางการเงินและจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องในเชิงลึกโดยผู้สอบบัญชีและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องนั้น บริษัทได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิศษ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้สืบสวนและสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจนถึงที่สุด
เนื่องจากบริษัทได้จัดให้มีการขยายผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ (forensic accounting) โดยผู้เชี่ยวขาญที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) บริษัทจึงได้ให้ความร่วมมือในการให้รายละเอียดเชิงลึกตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้ขยายผลให้แก่ทั้ง 2 หน่วยงานข้างต้นเป็นระยะๆ และได้ทยอยส่งมอบข้อมูลและหลักฐานต่างๆ ตามที่บริษัทมีให้แก่ทั้ง 2 หน่วยงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการรวบรวมพยานหลักฐาน การทำงาน และการสืบสวนของทั้ง 2 หน่วยงาน
อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อจำกัดในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย บริษัทจึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ ในเรื่องนี้ได้ จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์ในการแจ้งความคืบหน้าและข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ (ตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบในภายหลังต่อไป