xs
xsm
sm
md
lg

เผยดัชนี KR-ECI เดือน พ.ค.66 ทรงตัว จับตาการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือน พ.ค.66 ทรงตัวที่ 34.8 จาก 34.5 ในเดือน เม.ย.66 ขณะที่ดัชนี 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้นที่ 38.6 จาก 37.7 ในเดือน เม.ย.66 โดยครัวเรือนลดความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายไม่รวมหนี้สินและราคาสินค้าลง สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อไทยในเดือน พ.ค.66 ชะลอตัวลงเป็นอย่างมากที่ 0.53%YoY เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน อันเป็นผลมาจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ โดยขณะนี้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับ 32 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นการทยอยปรับลดลงจาก 35 บาทต่อลิตรตั้งแต่เดือน ก.พ.เป็นต้นมา ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อ่อนตัว ประกอบกับราคาสินค้าอาหารหลายรายการที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ เป็นต้น ขณะที่ค่าไฟฟ้าในงวดนี้ (เดือน พ.ค.-ส.ค.66) ปรับลดเล็กน้อยจากงวดก่อนหน้าที่ 4.70 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ ท่ามกลางอัตราค่าไฟฟ้าที่ยังอยู่ในระดับสูงและสภาพอากาศที่ร้อนจัด อีกทั้งอุณหภูมิยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่คาดว่าอาจมีความรุนแรงมากขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงได้สอบถามครัวเรือนเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการรับมือค่าไฟฟ้าของครัวเรือนโดยพบว่า มีแผนในการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในบ้านมากสุดที่ 84.5% รองลงมาเป็นการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดไฟ 37.9% นอกจากนี้ ยังมีแผนการรับมือกับค่าไฟฟ้าในรูปแบบอื่นๆ ได้แก่ การใช้เวลาในบ้านให้น้อยลง เช่น เดินทางไปห้างสรรพสินค้า อยู่ที่ทำงานนานขึ้น 17.7% การสร้างสภาพแวดล้อมของบ้านให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ เช่น ปลูกต้นไม้สร้างร่มเงา 15.8% และการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ (solar cell) 5.8% นอกจากนี้ ยังได้มีการสอบถามครัวเรือนถึงมุมมองที่มีต่อค่าไฟฟ้าของไทยในระยะข้างหน้าพบว่า ครัวเรือนส่วนใหญ่มีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าในอนาคตว่าจะชะลอลงโดยเป็นผลจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ 37.0% และจากราคาเชื้อเพลิงที่นำมาผลิตไฟฟ้านั้นลดลง 26.6% อีกส่วนหนึ่งมีมุมมองว่า ค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นจากราคาเชื้อเพลิงที่อาจกลับมามีความผันผวนได้ 22.7% และส่วนสุดท้ายยังมองว่าค่าไฟฟ้าจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงจากภาระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 13.7%

อย่างไรก็ดี จากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานานกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ลดลง โดยครัวเรือนในเดือนนี้มีความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับรายได้ สะท้อนผ่านองค์ประกอบของดัชนีด้านรายได้ที่ลดลง (กังวลมากขึ้น) โดยครัวเรือนที่ระบุว่ามีรายได้ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้าที่ลดลงหรือมีผลประกอบการที่แย่ลง ถึงแม้เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ตาม ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวที่ไม่ทั่วถึง

สำหรับในระยะข้างหน้า มองการฟื้นตัวของดัชนี KR-ECI ยังคงเป็นไปอย่างเปราะบาง ท่ามกลางปัจจัยท้าทายที่หลากหลาย โดยเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง (ณ เดือน พ.ค.66 อยู่ที่ 10.6 ล้านคน) ซึ่งจะหนุนภาคการจ้างงานและรายได้ในประเทศ โดยยังคงเป็นปัจจัยหนุนดัชนีที่สำคัญ ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งทั่วไปที่เสร็จสิ้นเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา อาจบรรเทาความกังวลที่มีต่อภาวะการครองชีพของครัวเรือนได้ในระดับหนึ่งจากนโยบายที่แต่ละพรรคการเมืองนำมาใช้หาเสียง โดยสะท้อนผ่านแบบสอบถามเพิ่มเติมในข้างต้นที่พบว่า ครัวเรือนไทยมีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าในอนาคตเนื่องจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ แต่ในขณะนี้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ยังคงมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมากซึ่งยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้ออาจกลับมาผันผวนให้อยู่ในระดับสูงได้ และหากมีการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าอาจส่งผลให้นโยบายบรรเทาภาระค่าครองชีพที่มีอยู่ในปัจจุบันสะดุดหรือลดลง เช่น การไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลของภาครัฐที่อาจกระทบให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลกลับมาปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเข้ามากระทบต่อต้นทุนการครองชีพของครัวเรือนได้ในระยะข้างหน้าได้ เช่น การส่งผ่านราคาของผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อผลผลิตทางการเกษตร ดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับสูง เป็นต้น รวมถึงการชะลอตัวและความไม่แน่นอนที่มีมากขึ้นของเศรษฐกิจโลกที่จะเข้ามากดดันภาคการส่งออกของไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น