xs
xsm
sm
md
lg

“อรสิริน” กางแผน 2 ปี สู่ผู้นำตลาดภาคเหนือ ลุยเปิด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 5,165 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บุญเลิศ บูรณุปกรณ์
“อรสิริน” อสังหาฯ เชียงใหม่ เปิดโรดแมป 2 ปี ก้าวสู่ผู้น้ำตลาดอสังหาฯ ภาคเหนือ ปี 66-67 ลุยเปิด 6 โปรเจกต์ใหม่ มูลค่ารวม 5,165 ล้านบาท โดยเร่งเปิดโครงการใหม่ปีนี้ ทั้งแนวราบ-สูง รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,225 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ขยายตลาดบนทำเลคุณภาพ ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ควบคู่กลยุทธ์การก่อสร้าง คุมต้นทุน เตรียมเข้าระดมทุนใน ตลท.ปี 66 เพิ่มศักยภาพการเติบโต มั่นใจโตไม่ต่ำ 20% ต่อปี

นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า อรสิริน คือดีเวลลอปเปอร์ที่พัฒนาที่อยู่อาศัยครบวงจร ตั้งแต่โครงการแนวราบ แนวสูง อาคารพาณิชย์ และโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ โดยโครงการต่างๆ ภายใต้การบริหารงานของอรสิริน ได้รับความนิยมต่อเนื่องมากว่า 17 ปี โดย มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขาย ณ ปี 65 รวม 18 โครงการ มูลค่ารวม 15,505 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 11 โครงการ มูลค่ารวม 8,348 ล้านบาท แนวสูง 7 โครงการ มูลค่ารวม 7,157 ล้านบาท โดยคงเหลือเพื่อขายมูลค่ารวม 6,385 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบมูลค่า 4,679 ล้านบาท และโครงการแนวสูงมูลค่า 1,706 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายก้าวสู่การเป็นผู้นำอสังหาฯ ระดับกลาง-บน ของภาคเหนือภายใน 3 ปี

ปรีดิกร บูรณุปกรณ์
นายปรีดิกร บูรณุปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาฯ แนวราบและแนวสูงภายใต้แบรนด์ ได้แก่ โครงการ THE ESCAPE, HABITAT, BELIVE, ORNSIRIN, ORNSIRIN VILLE, URBAN MYX, THE ASTRA, ARISE และ THE NEXT และเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ บริษัทกำหนด แผนธุรกิจในปี 66 เตรียมเปิดโครงการใหม่แนวราบ-แนวสูง รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 3,225 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ มูลค่ากว่า 1,940 ล้านบาท และแนวสูงอีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,285 ล้านบาท คาดจะเริ่มพัฒนาโครงการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66

นอกจากนี้ ภายในปี 67 บริษัทเตรียมแผนการพัฒนาโครงการคุณภาพในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มเติม มูลค่ารวมประมาณ 1,940 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบมูลค่ารวมประมาณ 233 ล้านบาท และโครงการแนวสูง มูลค่ารวมประมาณ 1,707 ล้านบาท เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำอสังหาฯ ภาคเหนือ 

อรรคเดช อุดมศิริธำรง
นายอรรคเดช อุดมศิริธำรง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยในภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ยังคงได้รับความนิยมจากชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมด้านเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นการเติบโตทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและ โครงการเชิงพาณิชย์ โดยบริษัทยังมีโอกาสเติบโตอีกมากจากแผนการเปิดโครงการใหม่

อีกทั้งปัจจัยสนับสนุนจากกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศได้มากขึ้น รวมถึง นโยบายมาตรการภาครัฐ เช่น การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมาตรการผ่อนคลาย LTV (Loan To Value Ratio) ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น

บริษัทจึงเดินหน้าสร้างการเติบโตต่อเนื่อง เร่งขยายตลาดบนทำเลคุณภาพ ชูกลยุทธ์พัฒนาที่อยู่อาศัยตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ด้วยการออกแบบฟังก์ชันและนวัตกรรมการอยู่อาศัยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกบ้านทุกโครงการ ควบคู่กลยุทธ์นวัตกรรมในการก่อสร้าง เพื่อควบคุมต้นทุนบริหารความเสี่ยงให้สอดรับกับต้นทุนที่ดิน ค่าก่อสร้าง และดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุนเพื่อการซื้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพทางการเงิน โดยอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีนี้ เพื่อสามารถรองรับการขยายตัวในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายรวมในปี 66 ไว้ที่ 1,735 ล้านบาท และวางเป้ายอดโอนรวมไว้ที่ 1,471 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารักษาการเติบโตของยอดขายไว้ไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี


นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า อรสิรินน่าดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ภายในวันที่ 10 เม.ย.66 นี้ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ซึ่งปัจจุบันอรสิรินมีทุนทดทะเบียน จำนวน 1,093.5 ล้าบาท และจะเพิ่มทุนอีก 406.5 ล้านบาท และหลังจาก IPO จะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น