xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีตั้งเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอีโต 4% ชูกลยุทธ์ 3P หนุนปรับตัว แนวโน้มเอ็นพีแอลเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) เปิดเผยว่า ในปี 2566 นี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีในระดับสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 4% หรือมียอดคงค้างสินเชื่อที่ 306,000 ล้านบาท คิดเป็นสินเชื่อใหม่ 13,000 ล้านบาท จากในปี 2565 ที่มียอดค้างสินเชื่อที่ 296,000 ล้านบาท หรือเติบโต 5.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้คาดการณ์ที่ไม่เกิน 5.45% จากปีก่อนที่ 4.8% จากระดับคาดการณ์ที่ 6% โดยเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคาร

"ในปี 65 กรุงศรีได้ดำเนินนโยบายมุ่งเน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านมาตรการเชิงรุกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนลูกค้าที่เข้าโครงการรับความช่วยเหลือ 7,602 ราย คิดเป็นวงเงินกู้ 75,317 ล้านบาท พร้อมกันนั้น ได้ออกแพลตฟอร์ม Krungsri Biz online และ Krungsri I Pro เพื่อช่วยให้ลูกค้าเอสเอ็มอีปรับตัวเข้าสู่ระบบออนไลน์ โดยแพลตฟอร์ม Krungsri Biz online มีจำนวนผู้ใช้ 98,000 ราย เติบโตถึง 109% รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินแบบครบวงจร ที่สำคัญยังเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจผ่านเครือข่าย MUFG ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เราสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายท่ามกลางความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผ่านมา"

สำหรับในปีนี้ ธนาคารพร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเอสเอ็มอีภายใต้กลยุทธ์ "Make Life Simple with 3P" ผ่าน 3 Pได้แก่ Portfolio โดยเจาะลึกและจัดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนขึ้นเพื่อให้สามารถนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์มากขึ้น Product โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการและช่วยพัฒนาธุรกิจให้เติบโตทันกระแสของโลก รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการแข่งขันที่สอดรับกับ New Normal ทั้งด้านกระแสดิจิทัล และด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยธนาคารมีสินเชื่อเพื่อการปรับเปลี่ยนในส่วนนี้ เช่น Transformation Loan ให้ลูกค้าในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เป็นต้น และ Platform โดยรวบรวมบริการและนวัตกรรมทางการเงินต่างๆ มาไว้ใน Platform เดียว เพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการธุรกรรมต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

"ปีนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยจะกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือสูงกว่าช่วงก่อนระบาดของโควิด ดังนั้น เราน่าจะเห็นตัวเลขผู้ประกอบการที่เข้าโครงการรับความช่วยเหลือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ขณะเดียวกัน ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะช่วงเปิดผ่าน รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงยังมองตัวเลขเอ็นพีแอลปีนี้ในระดับที่สูงกว่าปีก่อนที่ 5.45%"
กำลังโหลดความคิดเห็น