ผู้เชี่ยวชาญเชื่อราคาบิตคอยน์ยังเดินหน้าบวกต่อและอาจแตะ 50,000 ดอลลาร์ภายในหนึ่งปีท่ามกลางวิกฤตการเงินที่ผลักธนาคารใหญ่หลายแห่งล้มและอีกหลายแห่งตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งทำให้คนมากมายเสื่อมศรัทธาในระบบการธนาคารดั้งเดิมและแสวงหาตัวเลือกใหม่
ราอูล พัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) รีล วิชั่น และอดีตผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ มองว่าสถานการณ์ปัจจุบันอาจเป็นโอกาสดีที่บิตคอยน์ (บีทีซี) จะตั้งตัวเป็นสินทรัพย์หลบภัยและได้รับการยอมรับมากขึ้น
นักวิเคราะห์บางคนเห็นด้วยว่า โทเค็นถูกมองเป็นวิธีการรับประกันความเสี่ยงจากบาดแผลในภาคการธนาคารอเมริกาและยุโรป อีกทั้งยังได้อานิสงส์จากการคาดการณ์ว่า จะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากผลกระทบจากภาคการธนาคาร
เคธี วูด จากอาร์ก อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก เทเลวิชันว่า พฤติกรรมราคาในช่วงวิกฤตปัจจุบันจะดึงดูดนักลงทุนประเภทสถาบันเข้าหาคริปโตมากขึ้น ซึ่งอ้างอิงถึงสถานการณ์ที่คลี่คลายของแบงก์ 3 แห่งของอเมริกา และการที่ยูบีเอสเข้าเทกโอเวอร์เครดิต สวิส
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับแอนโทนี พอมพลิเอโนบนยูทูบเมื่อเร็วๆ นี้ พัลคาดการณ์แง่ดีว่า ราคาบิตคอยน์อาจพุ่งขึ้นเกือบ 80% ในเวลาไม่ถึงปี และขึ้นไปแตะ 50,000 ดอลลาร์ ส่วนหนึ่งเนื่องจากปรากฏการณ์ short selling squeeze ที่นักลงทุนเดาผิดว่า บิตคอยน์จะร่วงแต่กลับกลายเป็นว่า ราคาบีทีซีพุ่งแรงจนทำให้พวกที่ทำชอร์ตเซลล์ตื่นตระหนกและรีบซื้อเหรียญที่ยืมมากลับคืนเพื่อลดการขาดทุน และกระแสการกว้านซื้อนี้อาจทำให้ราคาเหรียญยิ่งพุ่งขึ้นไปอีก
นอกจากนั้นการที่นักลงทุนอ้าแขนรับมูลค่าบิตคอยน์และยอมรับว่าคริปโตสกุลนี้เป็นสินทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายอาจทำให้แนวโน้มนี้กลายเป็นเรื่องปกติและส่งให้ราคาบิตคอยน์บวกต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้พัลจึงเดิมพันว่า ราคาบีทีซีอาจทะยานแตะ 50,000 ดอลลาร์เร็วกว่าที่คนส่วนใหญ่คาด ซึ่งอาจเป็นภายในปีนี้หรือภายใน 12 เดือน
เขายังคาดว่า อุตสาหกรรมคริปโตและราคาบิตคอยน์อาจเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต เนื่องจากคนเสื่อมศรัทธาในระบบการธนาคารดั้งเดิมและแสวงหาตัวเลือกใหม่ และคนมากมายรับรู้ประโยชน์ของคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
พัลตั้งข้อสังเกตว่า ความสนใจในคริปโตที่เพิ่มมากขึ้นคล้ายกับแนวโน้มในปี 2013 ที่ส่งให้ราคาบิตคอยน์พุ่งทะยาน
ทั้งนี้ การฟื้นคืนชีพของบิตคอยน์ช่วยให้มูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิตอลเพิ่มขึ้นราว 390,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ หลังจากลดลง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
การฟื้นคืนชีพครั้งนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการล้มละลายของบริษัทคริปโต การไล่ปราบปรามของหน่วยงานกำกับดูแลของอเมริกา และการที่สเตเบิลคอยน์สำคัญสกุลหนึ่งมูลค่าหลุดจากที่ตรึงราคาไว้ที่ 1 ดอลลาร์
นับจากต้นปีนี้ ราคาบิตคอยน์ขึ้นไปแล้ว 70% คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของเปปเปอร์สโตน กรุ๊ป ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพิ่มงบดุล 300,000 ล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อส่งเสริมสภาพคล่องของภาคการธนาคารในประเทศ ถือเป็นข่าวดีสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง อีกทั้งยังหนุนราคาคริปโตและทองคำ
โทนี่ ซิคามอร์ นักวิเคราะห์ตลาดของไอจี ออสเตรเลีย ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้มีสัญญาณบ่งชี้ว่า บิตคอยน์มีแนวโน้มกลับตัวเป็นขาขึ้น และการศึกษาเชิงเทคนิคบ่งชี้ว่า ราคาบีทีซีจะเดินหน้าสู่ระดับ 35,000 ดอลลาร์
