xs
xsm
sm
md
lg

ลีสซิ่งกสิกรไทยจัดโปรแรงรับมอเตอร์โชว์ ชูสมัครสินเชื่อรถใหม่อนุมัติง่าย-เร็ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลีสซิ่งกสิกรไทยเปิดแคมเปญรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 มอบข้อเสนอให้ลูกค้าออกรถใหม่ป้ายแดงกับลีสซิ่งกสิกรไทย พิเศษสำหรับลูกค้าผู้ซื้อรถไฟฟ้า (BEV) และสมัครสินเชื่อกับลีสซิ่งกสิกรไทย รับดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.88-1.99% สำหรับยี่ห้อที่ร่วมแคมเปญกับลีสซิ่งกสิกรไทย และรับสิทธิขับฟรี 90 วัน และเลือกแบ่งจ่ายดาวน์ ฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย พร้อมชูนวัตกรรมการขอสินเชื่อรถยนต์ด้วยตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทยที่จะง่ายและรวดเร็วขึ้น ผ่านแพลตฟอร์ม Digital Self- Apply ในงานมอเตอร์โชว์ รู้ผลรวดเร็วทันที

นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด
เปิดเผยว่า แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น แต่ภาพรวมยอดขายรถยนต์ทั้งระบบในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ลดลง 6% หรือราว 8,000 คัน เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ 66 มียอดขายอยู่ที่ 135,347 คัน จากปีก่อนยอดขายอยู่ที่ 143,944 คัน ทั้งนี้ ในช่วงที่มีงานมอเตอร์โชว์ 2023 นี้ เชื่อว่าค่ายผู้ผลิตรถยนต์จะออกผลิตภัณฑ์รถรุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายในตลาด โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่พร้อมรับจองหลายรุ่นจากค่ายจีน ค่ายยุโรป และค่ายเกาหลี ส่วนค่ายญี่ปุ่นจะเปิดตัวและรับจองรถสันดาปรุ่นใหม่หลายยี่ห้อ

ด้านสถาบันการเงินจึงจัดแคมเปญไฟแนนซ์กระตุ้นยอดสินเชื่อรถ แต่การปล่อยสินเชื่อจะทำด้วยความระมัดระวัง เพราะยังมีความกังวลในเรื่องของภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้ายังกลับมาไม่เต็มที่ โดยในส่วนของลีสซิ่งกสิกรไทยจะปล่อยสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบ มุ่งเน้นการอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าที่ดีของธนาคารกสิกรไทย ด้วยแคมเปญของลีสซิ่งกสิกรไทย

โดยในช่วงงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 หรือ Motor Show 2023 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม 66 ถึง 2 เมษายน 66 ลีสซิ่งกสิกรไทยเปิดแคมเปญภายใต้คอนเซ็ปต์ “ออกรถใหม่กับ KLeasing ในงาน Motor Show ลุ้นไปเป็นคู่ ดู Tokyo Motor Show” พร้อมยังมอบสิทธิพิเศษถึง 4 ต่อ เช่น รับสิทธิลุ้นแพกเกจท่องเที่ยวเป็นคู่ไปประเทศญี่ปุ่น ดูโตเกียวมอเตอร์โชว์ มูลค่ารางวัลละ 150,000 บาท จำนวน 15 รางวัล หรือเที่ยวไทยกับบัตรกำนัลห้องพักและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา จำนวน 85 รางวัล รวม 100 รางวัล มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท รับสิทธิผ่อนดาวน์ 0% นานสูงสุด 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย สำหรับลูกค้าที่ออกรถยนต์ใหม่ทุกประเภทกับลีสซิ่งกสิกรไทย และขับฟรีนานถึง 90 วัน สำหรับลูกค้าที่ออกรถไฟฟ้า (BEV) ใหม่กับลีสซิ่งกสิกรไทย

โดยลูกค้าสามารถรับสิทธิพิเศษนี้ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2023 และโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายรถทั่วประเทศ หรือสมัครสินเชื่อรถออนไลน์ได้ทาง K PLUS

นอกเหนือจากการมอบแคมเปญที่จัดเต็ม และอัตราดอกเบี้ยที่โดนใจให้ลูกค้าแล้ว ลีสซิ่งกสิกรไทยยังเดินหน้าตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในปัจจุบันผ่านการให้บริการสินเชื่อรถทางแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อรถด้วยตนเอง (Digital Self-Apply) ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยถือเป็นแพลตฟอร์มที่ครบ จบ ง่ายสำหรับลูกค้า ผ่านการใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนและประมวลผลการอนุมัติเครดิตสกอริ่งทางออนไลน์ครบทุกฟังก์ชัน ทำให้ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนผ่านช่องทางดิจิทัล (NDID) การตรวจสอบเครดิตบูโร (NCB) และรับการประมวลผลอนุมัติด้วย i-Scoring ซึ่งเป็น Integrated Credit Scoring ของธนาคารที่รวบรวมคะแนนทั้งคะแนนด้านเครดิตบูโร (Application Score Bureau Score) และคะแนนพิเศษกรณีที่ผู้ขอสินเชื่อเป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย ด้วยนวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยทำให้การอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ให้ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย โดยเฉพาะลูกค้าที่มีประวัติทางเครดิตดี ง่าย รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

นายธีรชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ดี ประเมินว่ายอดขายในไตรมาสที่ 1 ปี 66 ภาพรวมน่าจะปรับลดลงราว 3-5% เนื่องจากยอดขายในเดือนมีนาคม 65 อยู่ที่ราว 87,000 คัน หากต้องการให้ตัวเลขในไตรมาสที่ 1 ปี 66 เติบโตจะต้องมียอดขายมากกว่า 95,000 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับในเดือนมีนาคม สอดคล้องกับมุมมองต่อตลาดรถยนต์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดขายรถยนต์รวมในไตรมาสแรกปี 66 น่าจะหดตัวลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อน จากสาเหตุหลัก คือ ฐานที่สูงกว่าปกติในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการที่ค่ายรถกลับมาเร่งส่งมอบรถยนต์หลังการล็อกดาวน์ทั้งในและต่างประเทศเป็นเวลานานในช่วงโควิดปี 64 ทำให้ทั้งการผลิตในช่วงดังกล่าว และการส่งมอบรถยนต์ทำได้ไม่สะดวกและล่าช้ากว่าเดิมไปมาก

อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 65 ที่ทำได้ 215,701 คันนั้น คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยที่ 1% เนื่องจากในปีนี้ได้รับปัจจัยบวกจากปัญหาการขาดแคลนชิปที่คลี่คลายลง การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และการแข่งขันด้านราคาที่จะเพิ่มสูงขึ้น ผลักดันให้ตลาดยังเติบโต แต่เป็นการเติบโตในกรอบที่ระมัดระวัง ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยประเภทรถที่น่าจับตาจะเป็นกลุ่มรถอเนกประสงค์ทั้งรุ่นเล็กและใหญ่ที่คาดว่าจะขยายตัว โดยเฉพาะในรุ่นมีระบบขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบ เช่น ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด นอกจากนี้ จะเป็นในกลุ่ม BEV ที่น่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยคาดว่าจะขยายตัวสูงถึงกว่า 1,099% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น