BYD เริ่มสร้างโรงงานในไทยวางกำลังผลิต 150,000 คันต่อปี คาดเริ่มต้นผลิตได้ราวปี 2567 พร้อมฉลองยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์
หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า การจัดตั้งฐานการผลิตรถในไทยถือเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งขยายธุรกิจในตลาดเอเชีย-แปซิฟิกและการพัฒนาอุตสาหกรรมในตลาดท้องถิ่น โดยฐานการผลิตรถยนต์BYD ในไทยมีพื้นที่เกือบ 600 ไร่ กำลังผลิตต่อปีราว 150,000 คัน จะพร้อมเริ่มผลิตได้ในปีหน้า
สำหรับยอดขายที่ผ่านมา BYD ATTO 3 เพียงรุ่นเดียว BYD มียอดจดทะเบียนรถถึง 1,352 คัน นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงปลายเดือนมกราคมปีนี้ โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 8% ของจำนวนพาหนะพลังงานใหม่ที่จดทะเบียนในประเทศไทย และจำนวนรถ BYD ATTO 3 ที่จดทะเบียนในไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยตัวเลขพุ่งไปแตะ 3,000 คันแล้ว ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
“ปัจจุบัน ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางพาหนะพลังงานใหม่ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 มีจำนวนพาหนะพลังงานใหม่ที่จดทะเบียนใช้งานในไทยแล้วทั้งสิ้น 16,672 คัน สูงขึ้น 281.86% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อนหน้า ที่สำคัญยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว จากจำนวนรุ่นรถยนต์ในตลาดที่เพิ่มขึ้นและมาตรการให้เงินสนับสนุนของรัฐบาลไทย”หลิว เสวียเลี่ยง กล่าว
หวาง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า พิธีวางศิลาฤกษ์ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ BYD ที่มุ่งมั่นขยายฐานการผลิตและขับเคลื่อนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงเป็นประจักษ์พยานสำคัญถึงความพยายามของ BYD ในการเร่งขับเคลื่อนแวดวงพลังงานใหม่และสร้างการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นจริงในระดับโลก
สำหรับยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของแบรนด์ BYD ทั่วโลกในปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.86 ล้านคัน สูงขึ้น 208.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขึ้นแท่นเป็นผู้นำพาหนะพลังงานใหม่ของโลกในแง่ยอดขาย ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD สูงถึง 193,655 คัน นับเป็นตัวเลขที่เติบโตก้าวกระโดดจากยอด 88,283 คันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
เฉพาะในตลาดยานยนต์ไฟฟ้า 100% ยอดขายของ BYD ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 อยู่ที่ 90,639 คันเมื่อรวมกับยอดขายจากเดือนมกราคมของปีเดียวกัน ยอดขายรวมจะสูงถึง 161,977 คัน หรือเติบโตร้อยละ 80.86 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากที่ BYD มีแผนยกระดับการดำเนินงานตลอดจนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตและช่องทางการขายอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งยังมีแรงหนุนยานพาหนะพลังงานใหม่อย่างจริงจังจากภาครัฐบาลในหลายประเทศ
หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า การจัดตั้งฐานการผลิตรถในไทยถือเป็นกุญแจสำคัญในการเร่งขยายธุรกิจในตลาดเอเชีย-แปซิฟิกและการพัฒนาอุตสาหกรรมในตลาดท้องถิ่น โดยฐานการผลิตรถยนต์BYD ในไทยมีพื้นที่เกือบ 600 ไร่ กำลังผลิตต่อปีราว 150,000 คัน จะพร้อมเริ่มผลิตได้ในปีหน้า
สำหรับยอดขายที่ผ่านมา BYD ATTO 3 เพียงรุ่นเดียว BYD มียอดจดทะเบียนรถถึง 1,352 คัน นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงปลายเดือนมกราคมปีนี้ โดยจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 8% ของจำนวนพาหนะพลังงานใหม่ที่จดทะเบียนในประเทศไทย และจำนวนรถ BYD ATTO 3 ที่จดทะเบียนในไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยตัวเลขพุ่งไปแตะ 3,000 คันแล้ว ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566
“ปัจจุบัน ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางพาหนะพลังงานใหม่ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 มีจำนวนพาหนะพลังงานใหม่ที่จดทะเบียนใช้งานในไทยแล้วทั้งสิ้น 16,672 คัน สูงขึ้น 281.86% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปีก่อนหน้า ที่สำคัญยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว จากจำนวนรุ่นรถยนต์ในตลาดที่เพิ่มขึ้นและมาตรการให้เงินสนับสนุนของรัฐบาลไทย”หลิว เสวียเลี่ยง กล่าว
หวาง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาเศรษฐกิจและพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า พิธีวางศิลาฤกษ์ในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ BYD ที่มุ่งมั่นขยายฐานการผลิตและขับเคลื่อนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงเป็นประจักษ์พยานสำคัญถึงความพยายามของ BYD ในการเร่งขับเคลื่อนแวดวงพลังงานใหม่และสร้างการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นจริงในระดับโลก
สำหรับยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของแบรนด์ BYD ทั่วโลกในปี 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.86 ล้านคัน สูงขึ้น 208.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขึ้นแท่นเป็นผู้นำพาหนะพลังงานใหม่ของโลกในแง่ยอดขาย ทั้งนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ของ BYD สูงถึง 193,655 คัน นับเป็นตัวเลขที่เติบโตก้าวกระโดดจากยอด 88,283 คันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
เฉพาะในตลาดยานยนต์ไฟฟ้า 100% ยอดขายของ BYD ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 อยู่ที่ 90,639 คันเมื่อรวมกับยอดขายจากเดือนมกราคมของปีเดียวกัน ยอดขายรวมจะสูงถึง 161,977 คัน หรือเติบโตร้อยละ 80.86 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยความสำเร็จดังกล่าวเกิดจากที่ BYD มีแผนยกระดับการดำเนินงานตลอดจนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตและช่องทางการขายอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งยังมีแรงหนุนยานพาหนะพลังงานใหม่อย่างจริงจังจากภาครัฐบาลในหลายประเทศ