xs
xsm
sm
md
lg

JMART ดิ่งเหว / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 2.7 หมื่นราย ของบริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART กำลังทุกข์ระทม เพราะราคาหุ้นที่ถือไว้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง สร้างต่ำสุดใหม่มาตลอด และไม่อาจคาดหมายว่า ราคาหุ้นจะไหลลงลึกถึงขนาดไหน

ในรอบ 12 เดือน หุ้น JMART ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 64 บาท ก่อนจะดิ่งลง จนล่าสุดวันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายได้สร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ราคา 24.80 บาท ก่อนจะดีดขึ้นมาปิดที่ 25.25 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 723.52 ล้านบาท

JMART เป็นบริษัทโฮลดิ้ง คอมพานี หรือประกอบธุรกิจลงทุนในธุรกิจอื่น โดยธุรกิจหลักคือ จำหน่ายทั้งค้าปลีกและค้าส่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีบริษัทในกลุ่มที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอีก 4 บริษัท ซึ่งราคาหุ้นทรุดฮวบลงในทิศทางเดียวกับ JMART

หลายปีที่ผ่านมา JMART มีข่าวดีกระตุ้นราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และการเข้าลงทุน โดยซื้อหุ้นกิจการอื่น ล่าสุดทุ่มเงินประมาณ 1,200 ล้านบาท ซื้อหุ้นบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของร้านอาหารสุกี้ ตี๋น้อย จำนวน 352,941 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียน

แต่การสร้างพันธมิตรครั้งสำคัญคือ การจับมือกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งนายคีรี กาญจนพาสน์ ถือหุ้นใหญ่ เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 โดยบริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART จํานวน 206,241,800 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาหุ้นละ 30.3370 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 6,256,757,486.60 บาท ส่งผลให้ VGI ถือหุ้นใน JMART ในสัดส่วนร้อยละ 15.00 ของทุนจดทะเบียน

ส่วนบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U บริษัทในกลุ่ม BTS เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน JMART จํานวน 136,119,587 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาหุ้นละ 30.3370 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,129,459,910.82 บาท ส่งผลให้ U ถือหุ้นใน JMART สัดส่วน 9.90% ของทุนจดทะเบียน

นอกจากนั้น U ยังเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER จํานวนไม่เกิน 197,108,696 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาจองซื้อหุ้นละ 36.3005 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 7,155,144,219.15 บาท ซึ่งส่งผลให้ U ถือหุ้นใน SINGER ในสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 24.90 ของทุนจดทะเบียน

กลุ่ม BTS ทุ่มเงินกว่า 1.83 หมื่นล้านบาท ลงทุนซื้อหุ้น JMART และหุ้น U ซึ่งปัจจุบันถือว่า นายคีรี เสียท่ากลุ่ม JMART เพราะราคาหุ้นทั้ง JMART และ SINGER ทรุดลงมาต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ VGI และ U เข้าไปซื้อเมื่อปี 2564 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้น BTS และหุ้นบริษัทลูกทั้ง 2 แห่ง

การดิ่งลงเหวของ JMART ส่วนหนึ่งเกิดจากผลประกอบการปี 2565 ไม่เป็นไปตามที่ผู้บริหารบริษัทเคยคุยโม้ไว้ โดยประกาศว่ากำไรจะเติบโต 50% แต่ผลประกอบการจริงปี 2565 กำไรกลับลดลง จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 2,467.59 ล้านบาท ปี 2565 มีผลกำไรเพียง 1,794.96 ล้านบาท

และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบเชิงจิตวิทยา จากการที่นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา และยุวดี พงษ์อัชฌา 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ JMART ขายหุ้นจำนวน 54 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 1,459 ล้านบาท ให้นักลงทุนสถาบัน เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ช่วงเวลาหรรษาของหุ้นกลุ่ม JMART ปิดฉากลงแล้ว ราคาหุ้นกำลังปักหัวลงอย่างน่ากลัว ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนหลายหมื่นคนต้องน้ำตานองหน้า เจ็บหนักกับหุ้นกลุ่มนี้








กำลังโหลดความคิดเห็น