xs
xsm
sm
md
lg

ปิดฉากหุ้นกลุ่มเปิดเมือง AOT / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฤดูกาลท่องเที่ยวกำลังผ่านพ้นไป นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยกลับบ้าน ธุรกิจท่องเที่ยวลดความคึกคักลง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเปิดเมืองอับเฉาตาม รวมทั้งหุ้นกลุ่มเปิดเมืองตัวใหญ่ที่สุดอย่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT

ช่วงเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา พร้อมการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หุ้นกลุ่มเปิดเมืองเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์ทุกสำนักเชียร์ให้ซื้อเก็บหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

แต่วันนี้เสียงเชียร์หุ้นกลุ่มเปิดเมืองเริ่มเงียบหาย ขณะที่ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับฐานลง

AOT เคยสร้างจุดสูงสุดในรอบ 12 เดือน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระหว่างชั่วโมงซื้อขายราคาพุ่งขึ้นที่ 76.50 บาท ก่อนจะเริ่มปรับฐานลงอย่างช้าๆ จนเมื่อวันจันทร์ที่ 7 มีนาคมปิดที่ 69.75 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในรอบหลายเดือน

วิกฤตการณ์โควิดส่งผลกระทบต่อ AOT โดยตรง ราคาหุ้นทรุดฮวบลง เช่นเดียวกับผลกระทบการที่พลิกมาขาดทุนอย่างหนัก โดยปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 16,322.01 ล้านบาท ปี 2565 ขาดทุนสุทธิอีก 11,087.87 ล้านบาท และอยู่ระหว่างถูกจับตาว่าผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้จะออกมาอย่างไรหลังธุรกิจการท่องเที่ยวกระเตื้อง

AOT ก็เหมือนกับหุ้นกลุ่มเปิดเมืองตัวอื่นๆ โดยราคาซึมซับรับข่าวดีด้านการท่องเที่ยวจนเต็มอิ่ม เมื่อไม่มีปัจจัยอื่นหนุนต่อ ราคาจึงเริ่มแผ่วลง แต่ไม่อาจคาดหมายได้ว่าหุ้นกลุ่มเปิดเมืองตัวไหนจะทรุดลงไปลึกขนาดไหน

นักลงทุนที่เข้าไปช้อนเก็บหุ้น AOT ก่อนหน้า เพราะคาดหวังว่า เมื่อธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มฟื้น จะทำให้ผลประกอบการ AOT กลับมามีกำไรภายในเวลารวดเร็ว ราคาหุ้นจะดีดตัวขึ้น

นักลงทุนสถาบันต่างประเทศหลายแห่งเข้ามาซื้อหุ้น AOT ติดพอร์ต เพราะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลต่อการคำนวณดัชนี และก่อนหน้าเป็นหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี แนวโน้มผลประกอบการเติบโตสดใส จ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง

แต่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดทำให้ผลประกอบการบริษัทฯ เปลี่ยนไป ขาดทุนหนักๆ ต่อเนื่องหลายปี เงินปันผลงดจ่าย และที่สำคัญ นักลงทุนต่างชาติที่ถอยทัพ ขายหุ้นทิ้งมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดย AOT ตกเป็น 1 ในเป้าหมายการขายของต่างชาติ

ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงต่อเนื่อง ทำให้ AOT สูญเสียความเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่สุด หรือหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคปมากที่สุด โดยมาร์เกตแคปเหลือ 1 ล้านล้านบาทเศษ และถูกหุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ไปแล้ว ด้วยมาร์เกตแคปประมาณ 1.24 ล้านล้านบาท

จำนวนผู้ถือรายย่อย AOT มีทั้งสิ้น 78,988 ราย จากเดิมหลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 9 ธันวาคม 2564 มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนทั้งสิ้น 107,484 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่เยอะมาก แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยส่วนหนึ่งอาจไม่มั่นใจว่าผลประกอบการบริษัทจะฟุบอีกนานไหม จึงทยอยขายหุ้นทิ้ง

ช่วงเวลาดีๆ ของหุ้นกลุ่มเปิดเมืองอาจปิดฉากลงแล้วชั่วคราว ไม่เว้นแม้แต่ AOT ที่ซึมลงจนหลุด 70 บาทในรอบหลายเดือน นักลงทุนที่สนใจหุ้นกลุ่มเปิดเมือง และพร้อมจะถือรอคอยอนาคต อาจรอจังหวะช้อนเก็บของถูกได้ โดยไม่ต้องรีบ

เพราะดูทรงหุ้นกลุ่มนี้ไม่น่าไว้วางใจ ยิ่งฝรั่งปักหลักถล่มขาย หุ้นตัวใหญ่ยิ่งอันตราย มีสิทธิถูกฝรั่งทุบจมดินเหมือน AOT

แต่นักวิเคราะห์ โบรกเกอร์ 15 แห่งที่ออกบทวิจัยหุ้น AOT ส่วนใหญ่แนะให้ซื้อ และตั้งเป้าหมายราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 80.70 บาท มีบางโบรกเกอร์ตั้งราคาเป้าหมายไว้เพียง 72 บาท แต่บางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายที่ 85 บาท

ราคาหุ้น AOT บนกระดานลงมาต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่ทุกโบรกเกอร์ให้ไว้ แต่จะจูงใจพอให้นักลงทุนเข้ามาไล่เก็บหุ้นหรือไม่เท่านั้น








กำลังโหลดความคิดเห็น