หุ้นกลุ่มเปิดเมือง หรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวถูกพิษวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 จนเงียบเหงาซบเซา ราคาหุ้นทรุดลงไปกองกับพื้นยกแผง แต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาเริ่มฟื้นตัวขึ้น และหุ้นกลุ่มเปิดเมืองบางตัวพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง โดยเฉพาะหุ้นบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY
SKY ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยได้รับสัมปทานจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ดำเนินโครงการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า และประมวลผลรายการข้อมูลสำหรับฐานข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร ในสนามบิน 6 แห่ง
ในช่วงวิกฤตโควิด ผลประกอบการของ SKY ชะลอตัว เพราะรายได้จากโครงการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าลดวูบ ตามจำนวนผู้โดยสารในสนามบิน 6 แห่งที่ลดลง
ราคาหุ้น SKY ทรุดหนักจนลงไปต่ำสุดในรอบ 12 เดือนที่ 9.35 บาท ขณะที่ผลประกอบการตกต่ำ จากปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 218.51 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิเหลือ 149.78 ล้านบาท ปี 2564 กำไรสุทธิ 40.61 ล้านบาท แต่ปี 2565 ผลกำไรกระเตื้องขึ้น เพราะไตรมาสที่ 4 นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมา จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น จึงมีผลกำไร 213.45 ล้านบาท
ราคาหุ้น SKY เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ปิดที่ 10 บาท แต่หลังจากนั้นใสเกียร์เดินหน้าวิ่งเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ จนล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 8 มีนาคมปิดที่ 31.50 บาท รวมเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 215% และเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงที่สุดนับจากต้นปี
ค่าพี/อี เรโชพุ่งขึ้นเป็น 92 เท่า ซึ่งถือว่าสูงมาก แต่นักลงทุนก็แห่เข้าไปไล่ซื้อเก็บ ยิ่งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ได้เข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มอีก 26 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.16% ของทุนจดทะเบียน ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 30.25 บาท เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยิ่งสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน
เพราะนักลงทุนสถาบันยังกล้าลุยกับ SKY ในราคาสูงกว่า 30 บาท ทำไมนักลงทุนรายย่อยจะตามแห่ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเพื่อดับความร้อนแรง แต่มาตรการหยุดการพุ่งทะยานของราคาหุ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขายขั้นที่ 1 โดยกำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยบัญชีเงินสด หรือแคชบาลานซ์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา ครั้งที่ 2 วันที่ 24 มกราคม ครั้งที่ 3 วันที่ 12 กุมภาพันธ์ และครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม หลังปิดการซื้อขายหุ้น
ระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 7 มีนาคม SKY สร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 12 เดือน โดยพุ่งขึ้นไปที่ 32.25 บาท
SKY เข้าจดทะเบียนในตลาด MAI เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2557 หลังนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 1.25 บาท จากพาร์ 50 สตางค์ โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นมีนายวรพจน์ อำนวยพล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 12.56% ของทุนจดทะเบียน มีผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 2,337 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 61.41% ของทุนจดทะเบียน
ราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นกว่า 200% ในช่วงเวลา 2 เดือนเศษ เป็นผลจากความคาดหมายว่าผลประกอบการ SKY ปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด ตามปริมาณนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกลับประเทศไทย
ไตรมาสแรกปีนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ผลกำไรของ SKY จะมีโอกาสเติบโตก้าวกระโดดตามที่นักลงทุนคาดหวัง และแห่วิ่งไล่ซื้อหุ้นหรือไม่