xs
xsm
sm
md
lg

สนธิรัตน์ ชู 4 เรื่องขับเคลื่อน ศก. เน้นฟื้นฟูการท่องเที่ยว - ส่งออก - บัตรคนจน - ดูแล SMEs

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิรัตน์”ชู 4 เรื่องขับเคลื่อนเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐเน้นฟื้นฟูการท่องเที่ยวการส่งออกบัตรคนจนและดูแลในเรื่องของ SMEsพร้อมลั่นหากพรรคพลังประชารัฐได้ดูแลเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเป็นจริงของพี่น้องประชาชน

วันนี้ ( 9 มี.ค.) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Ibusiness จัดสัมมนาใหญ่ประจำปี “The NEXT Thailand’s Future : จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธานเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ พร้อมระดมตัวแทนภาครัฐ เอกชน ฝ่ายการเมืองโชว์วิสัยทัศน์ ร่วมผลักดันและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่ความยั่งยืน

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กรรมการยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและการการเมือง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวในงานสัมมนา THE THAILAND 'S FUTURE จุดเปลี่ยนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน จัดโดย Ibusiness ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTB) ว่า ผมเป็นพรรคสุดท้ายที่เสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจ ที่ทุกท่านได้ถกตั้งแต่เช้า นโยบายพลังประชารัฐ แตกต่างจากทั้ง 3 พรรคที่ผ่านมา เพราะเราได้ทำมาในส่วนหนึ่งในสมัยที่ผมยังอยู่ แล้วก็กลับมาพรรคพลังประชารัฐ

ผมคิดว่าแนวคิดในเชิงมหภาค เราคิดไม่ได้แตกต่างกัน เท่าที่ฟังมา จะเห็นว่าไม่คิดต่าง ทางเดียวกัน แต่หากพรรคพลังประชารัฐ ได้ดูและเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด คือความเป็นจริงของพี่น้องประชาชน แและเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับการแก้ไข ทิศทางสำคัญที่เราจะไม่พูดไม่ได้ และอาจจะยอมรับว่า เครื่องจักรในการดำเนินเศรษฐกกิจของประเทศไทย จะต้องเอากลับมาเน้นย้ำ ในเรื่องของการบริหารจัดการ นโยบายมหภาค และ นโยบาลจุลภาค ต้องเป็นอันเดียวกัน เครื่องยนต์ทั้ง 4 เครื่อง ที่ขณะนี้กำลังจะฟื้นขึ้นมา สิ่งแรก ก็คือ เศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวในปีนี่ที่สำคัญที่สุดคือ การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรสำคัญ ดังนั้นนโยบายพลังประชารัฐ ต่อนโยบายการท่องเที่ยวก็คือหัวใผจสำคัญหลังการเลือกตั้ง ที่จะใช้สิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ซีลน้ำแข็งอยู่แล้ว เติมเข้าไป ไม่ใช่เฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ต้องเติมคุณภาพ ไไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงหรือเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนกพับการท่องเที่ยวของมหาภาคให้ไปด้วยกัน เพื่อไปหมุนเศรษฐกิจฐานรากไปในเรื่องการท่องเที่ยวด้วย

เรื่องส่งออกไม่พูดคงไม่ได้ เพราะนั่นคือเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ในการส่งออกทุกคนยอมรับว่า การส่งออกในปี 2566 ไม่ว่าจะดีเพราะภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกก็จะกระทบ ถึงประเทศจีนจะเปิดประเทศการส่งออกมีปัญหา แน่นอนว่าเศรษฐกิจการส่งออกกปีนี้คงไม่เกินกว่า 2 แสน 9 หมื่นกว่าล้านบาท ที่ประเมินไว้ แต่เป็นโอกาสที่พรรคพลังประชารัฐเคยผลักดันมาแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ 3 เรื่อง Innovation driven economy , Digital economy และ BCG economy ที่เรามีอยู่แล้ว และ BCG เป็นเรื่องที่สำคัญมาก การยอมรับของประเทศไทย ที่เป็นประเทศเกษตร การที่พูดสิ่งเหล่านี้ การส่งออกไม่เพียงแค่ตัวเลข แต่จะต้องเปลี่ยนผ่านโครงสร้างของการส่งออกประเทศไทย ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ให้เป็นภาคพร้อมสำหรับการแข่งขัน ไม่เช่นนั้นเราก็จะขายของที่มีปริมาณมาก แต่ว่าราคาต่ำ และใช้แรงงานเป็นตัวแข็งขัน เป็นต้น

และสำคัญที่สุด ผมคิดว่าพรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญด้านส่งออกกับ SMEs บริษัทขนาดใหญ่มีความสามารถในการแข่งขัน แต่ในดัชนีที่สำคัญต้องเร่งให้การเติบโต SMEs ต่อการส่งออกต้องสามารถจะแข่งขันสู้ได้ ด้านเงินการลงทุน เราจะต่อยอด EEC ที่เราเคยทำไว้ Mega project ต่างๆ High-Speed Trains และด้านของสำคัญภาครัฐก็จะต้องช่วยนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและการแก้หนี้

ปัญหาเร่งด่วนที่พรรคพลังประชารัฐ จะทำก็คงจะคล้ายๆ กัน แก้หนี้ เติมทุนใหม่ เพิ่มทักษะ สร้างโอกาส อันที่สอง ก็คือเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลายคนหบอกว่าจะทำให้คนจนหมดประเทศ เป็นสิด่งที่เราพูดได้ แต่ทั้งโลกก็ทำยาก แต่สวัสดิการที่แท้ก็คือ ช่วยเหลือให้คนรากหญ้าอยู่ได้ และนโยบายที่แท้ของสวัสดิการ ดาต้าเบส ของคนจนและพัฒนาให้พ้นเส้นความยากจน นโยบายนี้จะถูกขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพราะว่าการแก้ความจนไม่ได้ในระยะสั้น เราต้องนำคนจนมาพัฒนาให้พ้นความยากจน จะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเวอร์ชันต่อไป ที่จะต่อยอดบัตรสวัสดิการ

ภาคเกษตร ที่ดิน น้ำ คนไทยทุกช่วงวัยได้รับการดูแล บัตรสวัสดิการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม บัตรสวัสดิการ ก็เป็นขั้นต้น ผมจำได้ดีตอนที่ทำบัตรสวัสดิการ คนจนจนจริงๆ อย่างน้อยให้โอกาสที่จะเยียวยา พลังประชารัฐ ถือว่าเป็นนโยบายหลักเดินหน้าต่อยอดต่อ

สำคัญที่สุดของนโยบายที่ไม่ต่อเนื่อง และไม่ได้ได้มีการขับเคลื่อนที่แท้จริง เป็นนโยบายอะไรตามจะสำเร็จได้ยาก SMEs จะต้องแก้ปัญหา สิ่งที่พลังประชารัฐ แสดงจุดยืน คือมีการมีลงทุน พรรคพลังประชารัฐจะเข้าไปแก้ปัญหา SMEs เพราะ สภาพหนี้สิน เป็นสภาพหัวใจใหญ่ แต่การเข้าไปแก้ปัญหาหนี้ การเข้าไปเติมทุน ต้องทำไปพร้อมกับการสนับสนุนความสามารถในการประกอบการ เปิดศูนย์ SMEs ครบวงจร ประเทศไทยยังขาดสิ่งเหล่านี้

เปลี่ยนบทบาทของรัฐในการแก้ SMEs สสว. ที่ต้องปรับบทบาทครั้งใหญ่ หากกลไกของรัฐไม่ปรับนโยบายที่ทำไว้ จะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ สสว. ทำหน้าที่ในเชิงนโยบาย ทำหน้าที่ในการดูแลงบประมาณ ทำหน้าที่ในการประเมินผล มันถึงจะถูกขับเคลื่อนทั้งระบบ

ทุกคนพูดเรื่องนี้ ทุกคนให้ความสนใจ วันนี้ต่างชาติจะมาลงทุน หนึ่งการลดต้นทุนพลังงาน นอกจากต้นทุนค่าแรง เรื่องพลังงานมี 3 เรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลง ในเรื่องของน้ำมัน พลังประชารัฐ ปฏิรูปโครงสร้างราคาน้ำมัน จะทำให้เราได้ราคาที่เป็นธรรม ไม่ว่าจะกลไกเรื่องภาษี กองทุนน้ำมัน รื้อโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมของภาคเอกชน ไม่ใช่กลไกของรัฐอย่างเดียว ต้องใช้ของภาคเอกชนมาประกอบด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่เน้นย้ำ เรื่องที่ผมเน้นย้ำ ประเทศเราไม่มีน้ำมัน ต้องนำเข้าถึง 90% ผมพูดเสมอว่าต้องลดการใช้น้ำมัน พลังประชารัฐจะเปลี่ยนผ่านไปใช้ EV เต็มรูปแบบ ที่ทำให้เก่า 40 ล้านคัน เปลี่ยนรถเก่าเป็น EV ช่วยลด PM 2.5

นโยบายสำคัญของพลังประชารัฐ อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องไฟฟ้า เน้นการติดตั้งโซล่าล์เซลล์บนหลังคาเรือนและใช้ระบบหักลบกลบจ่าย ถ้าทำตรงนี้ลดภาระประชาชน โรงไฟฟ้าชุมชน ทั้งหมดคือสิ่งที่ต้องเร่งยกระดับเครื่องยนต์เดิม ยกระดับเครื่องยนต์ใหม่ เรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ที่ต้องช่วงชิง สำคัญเกษตรตัวหนึ่ง คือเกษตรพลังงาน นโยบายพลังประชารัฐต้องเปลี่ยนผ่านเกษตร สู่เกษตรพลังงาน ไบโอเจ็ท มันสำปะหลัง อ้อย ปาล์มน้ำมัน การแปรรูป BIO มากขึ้น อาหารเป็นเรื่องสำคัญ Food for the future

"ทั้งหมดสิ่งที่พลังประชารัฐ ดูแลความยากลำบากของคนที่มีรายได้น้อย ดูแลคนตัวเล็ก SME ฟื้นคืนชีพ ดูแลความลำบากของพี่น้องประชาชนไทยค่าพลังงาน ยกเครื่องเศรษฐกิจใหม่ ให้เติบโหต ด้าน GDP และสำคัญที่สุดจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่านโยบายใดดีแค่ไหนก็ตาม หากประเทศ มีการเมืองที่ไม่มั่นคง มีการเมืองเชิงความขัดแย้ง สิ่งที่เป็นนโยบายทั้งหลาย ก็เป็นเพียงนโยบายในการหาเสียง ไม่สามารถจะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จได้ พลังประชารัฐ ก้าวข้ามความขัดแย้ง และพร้อมจะนำประเทศไทยไปสู่ความสมดุลทางการเมือง พัฒนา ขจัดปัญหาในทุกที่ไปพร้อมกัน"








กำลังโหลดความคิดเห็น