การบินไทยเผยปี 65 ขาดทุน 272 ล้านบาท ลดลง 100% จากปีก่อนที่กำไรกว่า 5 หมื่นล้านบาท เหตุขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้เป็นหลัก ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 300% ทะลุแสนล้านบาท ส่วนปี 66 คาดมีรายได้ประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท เติบโต 30% หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวและจีนเปิดประเทหนุนการเดินทางสูงขึ้น ขณะที่จ่อยุบไทยสมายล์ หลังควบรวมในปีนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ หวังลดต้นทุน 30%
เผยปี 65 ขาดทุนจากปรับโครงสร้างหนี้ แต่รายได้ทะลุแสนล้านบาท
รายงานข่าวจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 65 บริษัทขาดทุน 272.24 ล้านบาท ลดลง 100.49% จากปีก่อนที่กำไร 55,365 ล้านบาท ขณะที่รายได้ที่ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอยู่ที่ 105,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81,294 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 342.3%
ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ บริษัทขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้ 5,238 ล้านบาท ประกอบด้วยขาดทุนจากการปรับปรุงหนี้สินให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูที่แก้ไข ขาดทุนจากการบอกยกเลิกสัญญาที่มีภาระเกิดควรกว่าประโยชน์พึงได้ ขาดทุนจากการปรับปรุงสินทรัพย์และหนี้สินตามการแก้ไขสัญญาเช่า ขณะเดียวกัน บริษัทยังขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกินมีทั้งสิ้น 74,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 68,507 ล้านบาท เนื่องจากได้กลับมาทำการบินและให้บริการเที่ยวบินประจำ โดยปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 1,118.6% คิดเป็น 61,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ยังไม่สามารถดำเนินการบินได้ตามปกติทั้งปี
ขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ จำนวน 23,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,856 ล้านบาท เป็นผลจากปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ด้านรายได้อื่น ประกอบด้วยรายได้จากหน่วยธุรกิจ ได้แก่การบริการภาคพื้น ครัวการบิน การบริการคลังสินค้า และรายได้จากกิจการสนับสนุนอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 6,674 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,559 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากจำนวนสายการบินลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายของบริษัทอยู่ที่ 97,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53,795 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากการขยายการผลิต
คาดปี 66 รายได้โต 30% หลังท่องเที่ยวฟื้น จีนเปิดประเทศหนุน
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย (THAI) กล่าวว่า รายได้รวมในปี 66 คาดว่าจะมีประมาณ 1.3-1.4 แสนล้านบาท เติบโต 30% จากปี 65 ที่มีรายได้รวม 1.05 แสนล้านบาท ที่จะมาจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวและจีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้ดีมานด์การเดินทางสูงขึ้น และคาดว่า EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบินจะสูงขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1,7241 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 66 การบินไทยคาดมีจำนวนผู้โดยสาร 12 ล้านคน โดยกลับมาทำการบินได้ 70-80% ของปี 62 ที่มีฝูงบิน 81 ลำ และมียอดผู้โดยสาร 19 ล้านคน
"capacity ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากการขยายฝูงบินเป็น 71 ลำภายในปลายปี 66 จากปีก่อนอยู่ที่ 64 ลำ (รวมไทยสมายล์ 20 ลำ) โดยจะเน้นทำการบินในเส้นทางที่ทำกำไรเป็นหลัก" นายชาย กล่าว
จ่อยุบไทยสมายล์หลังควบรวมปีนี้ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ THAI กล่าวว่า ตามแผนการฟื้นฟูกิจการซึ่งต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะมีการควบรวมสายการบินไทยสมายล์ มาอยู่ภายใต้องค์กรเดียวกับการบินไทย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษา คาดว่าแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หรือในเดือน พ.ค.66 และจะเห็นความชัดเจนการควบรวมภายในปีนี้
"การควบรวมดังกล่าวเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และเป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่กำหนดว่าต้องมีสายการบินไทยเป็นแบรนด์เดียวในการดำเนินงาน และจะทำให้การบริหารจัดการคล่องตัว ทั้งบริหารเส้นทางบิน บริหารการจัดใช้ชั่วโมงบิน" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
ปัจจุบันไทยสมายล์มีอัตราใช้เครื่องอยู่ 9 ชั่วโมง จากสิทธิการบินในเส้นทางต่างๆ ที่มีอยู่ ดังนั้นจะทำให้การบินไทยบริหารเส้นทางบินอื่นเพิ่มเติมในสิทธิการบินที่มีให้เพิ่มอัตราการใช้เครื่องได้ถึง 12 ชั่วโมง ช่วยลดต้นทุนได้อีก 30% และสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การควบรวมที่จะเกิดขึ้นต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ ก่อนนำเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่กำกับดูแลกิจการการบินพลเรือน เพื่อพิจารณาเห็นชอบการแก้ไขปรับปรุงแผนธุรกิจ ก่อนเสนอสำนักงานคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เบื้องต้น คาดว่าภายในสิ้นปีนี้สามารถบริหารงานที่เป็นทีมเดียวกันได้
นายปิยสวัสดิ์ ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลไม่กระทบต่อแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท และยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นไม่กระทบต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการของสายการบินไทยสมายล์
