สนามบินภูเก็ตปิดซ่อมรันเวย์ฉุกเฉินเมื่อ 22 ก.พ. นาน 45 นาที กว่า 20 เที่ยวบินดีเลย์ เหตุเครื่องบินของไทยสมายล์หางกระแทกรันเวย์ขณะร่อนลงรันเวย์เกิดรอยลึก 5 ซม. ต้องปิดใช้งานรันเวย์ ด้านการบินไทยเตรียมนำเครื่องกลับซ่อม เผยเสียหายไม่มาก ยันเครื่องที่เหลือมีใช้หมุนเวียนเพียงพอ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต เกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบินที่ WV207 กรุงเทพฯ-ภูเก็ต ขณะลงจอดด้านท้ายเครื่องบินกระแทกเข้ากับทางวิ่ง (รันเวย์) ของสนามบินลักษณะเป็นการลงจอดที่รุนแรง หรือ Hard Landing เหตุดังกล่าวไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย โดยเครื่องบินได้รับความเสียหายแต่ไม่มากนัก ส่วนสนามบินภูเก็ต รันเวย์ถูกกระแทกได้รับความเสียหายมีรอยแตกขนาด 1 คูณ 1 เมตร ทำให้ต้องปิดใช้รันเวย์ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยและซ่อมแซม โดยทำให้มีเครื่องบินขาเข้าและขาออกต้องเข้าคิวบิน จำนวนหลายลำ
นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 13.00 น.ของวันที่ 22 ก.พ. 2566 เครื่องบินของสายการบินไทยสมายล์ เที่ยวบินที่ WV207 เส้นทางกรุงเทพฯ-ภูเก็ต เกิดเหตุหางเครื่องบินครูดไปกับผิวรันเวย์ขณะลงจอดที่สนามบินภูเก็ต ทำให้พื้นรันเวย์ได้รับความเสียหายเป็นร่องลึกประมาณ 5 ซม. เป็นทางยาวเกือบ 10 เมตร โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สนามบินภูเก็ตได้เร่งเข้าดำเนินการซ่อมแซมผิวรันเวย์แบบชั่วคราว
โดยต้องประกาศปิดใช้รันเวย์เป็นเวลาประมาณ 45 นาที ส่งผลให้มีเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกประมาณ 20 เที่ยวบินต้องเกิดความล่าช้า และมี 1 เที่ยวบินที่ขอเปลี่ยนไปลงที่สนามบินกระบี่แทน อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางคืนของวันที่ 22 ก.พ. 2566 ได้ดำเนินการซ่อมแซมผิวรันเวย์อีกครั้ง โดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงตามมาตรฐาน
สำหรับกรณีเครื่องบินสายการบินไทยสมายล์เกิดเหตุส่วนหางครูดกับพื้นรันเวย์ขณะทำการลงจอดนั้น ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. (CAAT) อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ ขณะที่ทางสายการบินไทยสมายล์ได้ทำการเคลื่อนย้ายเครื่องบินลำดังกล่าวออกจากสนามบินภูเก็ตไปแล้ว
นายมนต์ชัยกล่าวว่า สนามบินภูเก็ตมีรันเวย์ 1 เส้น ซึ่งบริหารจัดการการขึ้นลงกรณีเกิดเหตุ อาจต้องปิดรันเวย์ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ปัจจุบันมีเที่ยวบินประมาณ 240 เที่ยวบิน/วัน หรือประมาณ 65% ของเที่ยวบินในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีประมาณ 300 เที่ยวบิน/วัน ขณะที่มีผู้โดยสารรวมประมาณ 42,000 คน/วัน (ระหว่างประเทศ 24,000 คน ภายในประเทศ 18,000 คน) หรือคิดเป็นประมาณ 75% ของจำนวนผู้โดยสารช่วงก่อนเกิดโควิด
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กล่าวว่า เครื่องบินไทยสมายล์ที่เกิดเหตุที่สนามบินภูเก็ตนั้น คือ แอร์บัส A 320 ได้รับความเสียหายเล็กน้อย อยู่ระหว่างรอการตรวจสอบฯ และจะเคลื่อนย้ายเข้าซ่อมบำรุงต่อไป ทั้งนี้ ไทยสมายล์มีเครื่องบิน 20 ลำ ต้องซ่อม 1 ลำ ที่เหลือ 18-19 ลำ สามารถใช้หมุนเวียนการใช้งานได้เพียงพอ ไม่มีปัญหา
