xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.เผยหนี้ครัวเรือนสูงเกินความเสี่ยง BIS วัยเกษียณหนี้ท่วมกว่า 4 แสนบาท นอกระบบ 5.4 หมื่นบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธปท.เปิด 4 แนวทางแก้หนี้ครัวเรือน หลังหนี้ครัวเรือนสูงเกินความเสี่ยงของ BIS แฉพฤติกรรมคนไทย พบ 30% ของหนี้บัตรเครดิตมีหนี้รวมสูงกว่าเงินเดือน 10-25 เท่า เหลือไม่พอใช้จ่าย คนวัยเกษียณมีหนี้เฉลี่ยคนละกว่า 4 แสนบาท ขณะที่ยังมีหนี้นอกระบบกว่า 54,000 บาทต่อคน หวั่นฉุดรั้งเศรษฐกิจและนำไปสู่ปัญหาสังคม สุขภาพจิต และอาชญากรรม

น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หลังจากที่ ธปท.ได้ติดตามปํญหาหนี้ครัวเรือนไทย และการเร่งปรับโครงสร้างหนี้มาต่อเนื่อง พบว่า หนี้ครัวเรือนของไทยยังอยู่ในระดับสูงมาก โดยล่าสุดไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ในระดับ 86.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แม้จะลดลงจากระดับสูงสุดที่ 90.1% แต่เป็นการลดลงจากตัวจีดีพีที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวหนี้ของคนไทยที่ลดลง และมองไปข้างหน้าหากไม่ได้เร่งแก้ไขอะไรเลย หนี้ครัวเรือนของไทยในปี 2570 ยังจะอยู่ระดับ 84% ของจีดีพี ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ที่กำหนดอัตราสูงสุดไว้ที่ 80%

หากหนี้ครัวเรือนเกินกว่าอัตราที่กำหนดดังกล่าว จะทำให้เกิดการฉุดร้ังการขยายตัวของเศรษฐกิจ เพราะรายได้ส่วนใหญ่ต้องเอาไปจ่ายคืนหนี้แทนการใช้จ่าย และยังจะกระทบเสถียรภาพของสถาบันการเงิน หากหนี้ครัวเรือนกลายเป็นหนี้เสียจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังจะก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม สุขภาพจิต และอาชญากรรม ดังนั้น เพื่อช่วยให้ภาคครัวเรือนอยู่รอดและปรับตัวสู่โลกใหม่ได้อย่างยั่งยืน

ธปท.ได้จัดทำ "แนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน" เพื่อสะท้อนข้อมูลเชิงลึกของหนี้ครัวเรือนไทยและหลักการในการแก้ปัญหาหนี้ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งต้องทำอย่างครบวงจรให้เหมาะกับลักษณะปัญหาในแต่ละช่วงของการเป็นหนี้ และทำอย่างถูกหลักการ คือ แก้ให้ตรงจุด ไม่สร้างภาระเพิ่มให้ลูกหนี้ ไม่ลดโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อ และตั้งใจจริง

ด้านนายจิตเกษม พรประพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายส่งเสริมความรู้ทางการเงิน ธปท. กล่าวต่อว่า จากการสำรวจลูกหนี้ ธปท.พบ 8 ข้อเท็จจริงของหนี้คนไทย คือ 1.คนไทยเป็นหนี้เร็ว โดย 58% ของคนอายุ 25-29 ปีเริ่มเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล หนี้รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และ 1 ใน 4 หรือ 25% ของคนกลุ่มหนี้เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) 2.คนไทยเป็นหนี้เกินตัว โดยพบว่า เกือบ 30% ของลูกหนี้บัตรเครดิตและหนี้ส่วนบุคคลมีหนี้เกิน 4 บัญชีต่อคน วงเงินรวมต่อคนสูงถึง 10-25 เท่าของรายได้ในแต่ละเดือน จนทำให้รายได้เกินกว่าครึ่งต้องเอาไปจ่ายคืนหนี้ ใช้จ่ายไม่พอและอาจต้องไปก่อหนี้นอกระบบ 3.คนไทยเป็นหนี้โดยไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดย 4 ใน 5 ของปัญหาในขั้นตอนการเสนอขายสินเชื่อของสถาบันการเงิน คือ ลูกหนี้มักได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง

4.เป็นหนี้เพราะมีเหตุจำเป็น และที่สำคัญคือกว่า 62% ของครัวเรือนไทยมีเงินออมเผื่อฉุกเฉินไม่เพียงพอ และหากเกิดเหตุที่ทำให้รายได้ลดลง 20% จะมีครัวเรือนเกินครึ่งที่มีเงินไม่พอจ่ายหนี้ 5.คนไทยเป็นหนี้นาน โดยมากกว่า 1 ใน 4 ของคนอายุเกิน 60 ปี ยังมีภาระหนี้ที่ต้องผ่อนชำระ โดยมีหนี้เฉลี่ยสูงกว่า 415,000 บาทต่อคน และใช้วิธีผ่อนจ่ายขั้นต่ำ ซึ่งทำให้หนี้ไม่หมดเสียที 6.หนี้เสียของไทยอยู่ในระดับสูง โดยลูกหนี้ 10 ล้านบัญชีที่เป็นหนี้เสีย และเกือบครึ่งหรือ 4.5 ล้านบัญชี พบว่าเพิ่งเป็นหนี้เสียในช่วงโควิด-19 ข้อที่ 7.คนไทยเป็นหนี้ไม่จบสิ้น โดยเกือบ 20% ของบัญชีหนี้เสียแม้ว่าจะถูกยื่นฟ้องแล้ว และ 1 ใน 3 ของลูกหนี้ในคดีที่จบด้วยการยึดทรัพย์มาขายทอดตลาดแล้ว ก็ยังปิดหนี้ไม่ได้ยังเหลือหนี้สินที่ต้องจ่ายต่อเนื่อง และ 8. คนไทยเป็นหนี้นอกระบบจำนวนมากโดยจากการสำรวจของธปท.พบว่า 42%ของกว่า 4,600ครัวเรือนทั่วประเทศที่ขอรับความช่วยเหลือแก้หนี้มีหนี้นอกระบบเฉลี่ยคนละ 54,300บาท

ขณะที่ น.ส.อรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท.กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนของ ธปท. ว่า จะแบ่งเป็น 4 ด้าน

1.ที่ต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุดคือหนี้เสียที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะหนี้เสียที่เกิดขึ้นช่วงโควิดซึ่งเป็นหนี้ส่วนบุคคล และหนี้ในภาคเกษตรเป็นส่วนใหญ่ โดยจะเร่งรัดการปรับโครงสร้างหนี้ตามมาตรการแก้หนี้ระยะยาว กำหนดให้เจ้าหนี้ต้องมีบริการให้คำปรึกษาแก้หนี้ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกหนี้ รวมทั้งการสร้างตัวช่วยลูกหนี้โดยให้มีคนกลางทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านการแก้หนี้และไกล่เกลี่ยหนี้และการผลักดันให้มีกฎหมายที่ช่วยให้ลูกหนี้รายย่อยทั่วไปที่ไปต่อไม่ไหวได้เข้ากระบวนการฟื้นฟูหรือขอล้มละลายได้ด้วยตนเอง

2.การแก้หนี้ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง จะหาแนวทางให้ลูกหนี้เห็นทางปิดจบหนี้ได้ โดยผลักดันให้มีแนวทางแก้ไขปัญหา โดยเริ่มจากหนี้บัตรกดเงินสดที่เป็นหนี้เรื้อรังของลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง มีอายุมากและมีปัญหาทางการเงินรุนแรงก่อน

3.การลดหนี้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นเร็วและอาจเป็นหนี้เสียหรือเรื้อรังในอนาคต ธปท. จะออกเกณฑ์เพื่อให้เจ้าหนี้ปล่อยสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบ (responsible lending) และกำหนดให้เจ้าหนี้ปล่อยสินเชื่อโดยคำนึงถึงความสามารถในการจ่ายหนี้คืนและลูกหนี้ยังมีเงินเหลือพอดำรงชีพ (macroprudential policy) รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้เจ้าหนี้สินเชื่อรายย่อยคิดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกหนี้แต่ละราย (risk-based pricing) พร้อมผลักดันให้เจ้าหนี้อื่นเห็นพฤติกรรมดีของลูกหนี้ เพื่อกระตุ้นการรีไฟแนนซ์หนี้ไปยังดอกเบี้ยที่ถูกลง

4.ติดตามข้อมูลหนี้ที่ยังไม่อยู่ในตัวเลขหนี้ในหนี้ครัวเรือน เช่น หนี้เพื่อการศึกษา (กยศ.) สินเชื่อสหกรณและหนี้นอกระบบ เพื่อช่วยแก้ไข และผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลต่างๆ เพื่อประเมินและติดตามสินเชื่อ เช่น ข้อมูลพฤติกรรมการจ่ายเงิน เพื่อให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้นและด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ตรงตามความเสี่ยงของตน ทั้งนี้ ธปท.จะทยอยออกแนวนโยบายแก้ปัญหาในแต่ละเรื่องออกมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ไปจนถึงสิ้นปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น