หุ้น KCE ร่วงแรงกว่า 11% หลังเปิดเผยกำไร 65 ลดลงเล็กน้อย 4.5% อยู่ที่ 2,317 ลบ. ยอมรับเจอผลกระทบสงคราม - นโยบายศก. -ปัญหาขาดแคลนชิป และต้นทุนพุ่ง แต่รายได้ยังโต 23.55% จากบาทอ่อนค่า – ต่อรองราคาหนุน ด้านโบรกฯ แนะนำขาย มองกำไรโค้งแรกปีนี้ ยังต้องระวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE วานนี้ ( 8 ก.พ.) ปรับตัวลดลงทันทีที่เปิดการซื้อขาย โดยเปิดซื้อขายที่ระดับ 54.50 บาท จากนั้นลดลงต่อเนื่องตลอดการซื้อขาย โดยปิดเช้าที่ 53.75 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 5.70% และลดลงต่ำสุดที่ 50.50 บาท หรือ 6.50 บาท หรือ 11.40% มูลค่าการซื้อขาย 5,038 ล้านบาท
วานนี้ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการ งวดปี 65 มีกำไร 2,317.23 ล้านบาท ลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 2,426.28 ล้านบาท อย่างไรก็ดีหากนับเฉพาะกำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 2,280.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8%
ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทในปี 2565 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งสงครามรัสเซีย กับยูเครน และนโยบายทางเศรษฐกิจและการเมืองในต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์การขาดแคลน chip สำหรับผลิตสินค้า ขณะที่ราคาทองแดง ทอง และ น้ำมันซึ่งเป็น Commodity Price ในตลาดโลกปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก กระทบต้นทุน และโสหุ้ยการผลิต
ส่วนโดยรายได้จากการขายสินค้าปีนี้เพิ่มขึ้น 23.55% จากอานิสงส์ของค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และการเจรจาต่อรองปรับราคา
UOBK ให้ระวังแนวโน้มกำไรQ1/66 แนะนำขาย
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน เปิดเผยว่า KCE รายงานกำไรสุทธิใน Q4/65 อยู่ที่ 500 ล้านบาท ลดลง 29% yoy และ 24% qoq โดยกำไรออกมาต่ำกว่าที่เราคาด 25% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 24% ส่วนงวดปี 65 มีกำไร 2,317.23 ล้านบาท ลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 64 กำไรที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาดหลักๆมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ออกมาต่ำกว่าคาด และค่าใช้จ่ายในการขาย (SG&A-to-sales) ออกมาสูงกว่าคาด
ขณะที่มองไปข้างหน้า ยังคงระมัดระวังต่อแนวโน้มกำไรของ KCE ใน Q1/66 เนื่องจากความต้องการ PCBs ที่อ่อนตัวลง และค่าเงินที่ผันผวนคงคำแนะนำ ขาย ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท
ทรีนีตี้ ยังคงประมาณกำไรปีนี้ที่ 2.8 พันลบ. ให้เป้าหมาย 53.50 บ.
ด้าน บล. ทรีนีตี้ ระบุว่า รายงานกำไร 4Q22 ของ KCE ตํ่ากว่าตลาดคาด เหลือ 500 ล้านบาท -29% YoY, -24% QoQ KCE รายงานกำไร 4Q22 เหลือเพียง 500 ล้านบาท -29% YoY, -24% QoQ ยอดขายหดตัว Margin ปรับลดลง
1. รายได้จาการขาย PCB ไตรมาสนี้เหลือ 98 ล้านเหรียญฯ -8% YoY, -11%QoQ เป็นผลจากปริมาณการขายลดลง ซึ่งยอดขายในยุโรปปรับลดลง -13% YoY , -18% QoQ
2. Margin อยู่ที่ 21% ลดลงจาก 4Q21 ที่ 25% และ 3Q22 ที่ 24% ซึ่งคาดว่ามาจาก Product Mix ที่เปลี่ยนไป และราคาทองแดงที่เป็นต้นทุนปรับเพิ่มขึ้นในช่วง 4Q22 โดยราคาทองแดง LME ปรับเพิ่มขึ้นจาก USD7,500/ton มาเป็น USD8,500/ton
เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 2.8 พันล้าบาท และราคาเป้าหมายปี 2023ที่ 53.50 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นสูงกว่าราคาเป้าหมาย และผลการดำเนินงานที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด อาจจะส่งลบต่อราคาหุ้นในช่วงสั้น
