หุ้นไทยปิดตลาด -1.62 จุด โบรกฯ แนะจับตาถ้อยแถลง FED อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง อาจหลุด 33.7-33.8 บาท/ดอลลาร์ ชี้อาจไม่กระทบมากนัก เพราะยังมีแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว ขนส่งและบริหารที่เกี่ยวเนื่องเป็นแรงหนุน และภาคเศรษฐกิจที่จะทยอยฟื้นตัวหลังโควิด ประเมินกรอบดัชนีวันพรุ่งนี้แนวรับไว้ที่ 1,688-1,675 จุด และแนวต้าน 1,695 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 7 ก.พ.2566 ปรับตัวลดลง -1.62 จุด หรือ -0.10% โดยปิดตลาดที่ 1,680.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,477.30 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายของหุ้นไทยในวันนี้ดัชนีแกว่งไซด์เวย์โดยช่วงเปิดตลาดปรับตัวขึ้น และค่อยๆแกว่งตัวปรับลงสู่แดนลบก่อนปิดตลาดภาคเช้า ขณะที่ในช่วงบ่ายยังคงแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในแดนลบสลับแตะแดนบวกบ้างก่อนที่จะปิดตลาดในแดนลบ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,689.51 จุด ขณะเดียวกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,676.14 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 491 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 522 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,010 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,685.74 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -108.83 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,435.30 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +359.28 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 4,025.04 ล้านบาท ปิดที่ 970.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,534.11 ล้านบาท ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
3.EA มูลค่าการซื้อขาย 1,830.54 ล้านบาท ปิดที่ 90.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,830.35 ล้านบาท ปิดที่ 11.20 บาท ลดลง 0.10 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,462.01 ล้านบาท ปิดที่ 73.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTAปิดที่ 970.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท หรือ 2.11%
2.SCCปิดที่ 338.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 0.60%
3.EA ปิดที่ 90.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 1.97%
4.PTTEP ปิดที่ 165.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.61%
5.STA ปิดที่ 23.40บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 3.54%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.THG ปิดที่ 68.00 บาท ลดลง 3.25บาท หรือ 4.56%
2.MTC ปิดที่ 37.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 4.52%
3.SAWAD ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.77%
4.KKP ปิดที่ 67.50 บาท ลดลง 1.00บาท หรือ 1.46%
5.CBG ปิดที่ 102.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.97%
ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,252.48 จุด ลดลง -2.02 จุด หรือ -0.09% ดัชนี SET50 ปิดที่ 998.25 จุด ลดลง -0.38 จุด หรือ -0.04% ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 611.50 จุด ลดลง -2.64 จุด หรือ -0.43%
ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ พยายามสร้างฐาน หลังนักลงทุนซึมซับปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จำนวน 2 ครั้ง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น และถ่วงค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 33.7-33.8 บาท/ดอลลาร์ โดยไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคท่องเที่ยว
ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ลุ้นดัชนีฯ ฟื้นตัวขึ้น โดยให้ติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ให้แนวรับไว้ที่ 1,688-1,675 จุด และแนวต้าน 1,695 จุด