หุ้นไทยปิดตลาด -9.76 จุด โบรกฯ ชี้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มค้าปลีก หลังนักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน แนะนักลงทุนจับตารอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ โดยประเมินกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,670 จุด แนวต้านที่ 1,680 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 31 ม.ค. 2566 ปรับตัวลดลง -9.76 จุด หรือ -0.58% โดยปิดตลาดที่ 1,671.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,295.95 ล้านบาท โดยภาพรวมการลงทุนในวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่และปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงท้ายก่อนปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,683.90 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,671.00 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 579 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 467 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,025 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,068.21 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +1,229.34 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -2,894.50 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -403.05 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KCE มูลค่าการซื้อขาย 5,588.13 ล้านบาท ปิดที่ 54.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 4,827.14 ล้านบาท ปิดที่ 11.60 บาท ลดลง 0.40 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,640.62 ล้านบาท ปิดที่ 66.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,023.11 ล้านบาท ปิดที่ 900.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,208.67 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KCE ปิดที่ 54.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.75 บาทหรือ 9.50%
2.BH ปิดที่ 217.00บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.40%
3.HANA ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50บาทหรือ 4.31%
4.FORTH ปิดที่ 43.25บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 4.85%
5.DELTA ปิดที่ 900.00บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 0.22%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 336.00 บาท ลดลง 8.00 บาท หรือ 2.33%
2.SCBปิดที่ 104.00 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ 3.26%
3.BBL ปิดที่ 158.50บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.55%
4.ADVANC ปิดที่ 195.00 บาท ลดลง 2.50บาท หรือ 1.27%
5.CPALL ปิดที่ 66.50บาท ลดลง 2.25บาท หรือ 3.27%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,240.18 จุด ลดลง -17.81 จุด หรือ -0.79% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 992.95 จุด ลดลง -9.77 จุด หรือ -0.97% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 603.98 จุด ลดลง -0.83 จุด หรือ -0.14%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามแรงขายกลุ่มแบงก์และกลุ่มค้าปลีกเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติชะลอลงทุน หลังจากวานนี้ขายสุทธิ ส่วน BANPU รับแรงกดดันจากราคาก๊าซและถ่านหินปรับตัวลง
ทั้งนี้ นักลงทุนอยู่ระหว่างรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันการลงทุนของตลาดเอเชียก็ไม่สดใส พักตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่รอผลการประชุมเฟดเช่นกัน แม้ว่าวันนี้จีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีทั้งตัวเลข PMI ภาคการผลิตและภาคบริการในเดือน ม.ค.66 และ IMF ปรับ ,มุมมองภาพรวมการลงทุน (outlook) เศรษฐกิจจีนดีขึ้น แต่ตลาดหุ้นฮ่องกงยังมีแรงขายกลุ่มเทคโนโลยีตามตลาดหุ้นสหรัฐ และรอดูผลประชุมเฟดด้วยเช่นกัน
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดน่าจะชะลอการปรับตัวลงหลังจากลงไปมากแล้ว โดยประเมินกรอบการลงทุนให้แนวรับที่ 1,670 จุด แนวต้านที่ 1,680 จุด