หุ้นไทยปิดตลาด -0.83 จุด โบรกฯ ชี้เกิดแรงเทขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก และโรงพยาบาลเข้ามากดดันดัชนี ทำให้ภาพรวมยังไม่สามารถพุ่งขึ้นไปยืนเหนือ 1,700 จุดได้ มองแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดยังแกว่งไซด์เวย์ พร้อมประเมินแนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,670-1,680 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 25 มกราคม 2566 ปรับตัวลดลง -0.83 จุด หรือ -0.05% โดยปิดตลาดที่ 1,682.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,927.46 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ปรับตัวผันผวนเคลื่อนไหวสลับระหว่างแดนบวกและแดนลบ ก่อนกลับมาปิดลบเล็กน้อย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,687.51 จุด ขณะเดียวกันที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,678.71 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 456 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 557 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 959 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +1,762.92 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +360.64 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -1,453.15 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -670.41 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.BEM มูลค่าการซื้อขาย 2,556.72 ล้านบาท ปิดที่ 10.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,024.99 ล้านบาท ปิดที่ 143.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
3.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,709.63 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,663.61 ล้านบาท ปิดที่ 894.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
5.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,565.21 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 894.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาทหรือ 1.13%
2.CBG ปิดที่ 103.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50บาทหรือ 3.52%
3.EGCO ปิดที่ 176.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาทหรือ 0.86%
4.BBL ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50บาทหรือ 0.98%
5.ADVANC ปิดที่ 201.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 0.50 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่ 59.50 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ 5.56%
2.SCC ปิดที่ 345.00 บาท ลดลง3.00บาทหรือ 0.86%
3.BH ปิดที่ 207.00 บาท ลดลง2.00บาทหรือ 0.96%
4.COM7 ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง1.75บาทหรือ 5.43%
5.FORTH ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง1.25บาทหรือ 3.21%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,260.35 จุด ลดลง -1.87 จุด หรือ -0.08% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,005.04 จุด ลดลง -0.08 จุด หรือ -0.01% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 600.48 จุด ลดลง -3.56 จุด หรือ -0.59%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยมีแรงกดดันจากกลุ่มค้าปลีก และโรงพยาบาลที่มีแรงขายออกมากดดันดัชนี ซึ่งอาจจะเป็นแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ช่วงที่ผ่านมาตอบรับปัจจัยหนุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปมากแล้ว
ขณะเดียวกันดัชนียังคงเคลื่อนไหวในกรอบและยังไม่สามารถปรับขึ้นไปยืนระดับ 1,700 จุด ได้ ทำให้เมื่อปรับขึ้นไปใกล้ๆแนวต้านแรกใกล้ๆบริเวณ 1,690 จุด ก็มีแรงขายออกมา ทำให้ภาพของดัชนียังเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ และปัจจัยในวันนี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย 0.25% ตลาดไม่ได้ตอบรับไปในทางใดเป็นพิเศษ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ที่เปิดทำการส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
ส่วนแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้คาดว่ายังคงแกว่งตัวไซเด์เวย์ในกรอบ โดยที่ตลาดยังรอปัจจัยใหม่เข้ามา โดยเฉพาะการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในช่วงเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้ว่าจะมีการส่งสัญญาณด้านนโยบายการเงินของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาในทิศทางไหน นอกจากนี้ยังต้องติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไตรมาส 4/65 อีกด้วยโดยประเมินกรอบแนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,670-1,680 จุด