xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปรับฐานปิดร่วง -11.23 จุด งบหุ้นแบงก์-ไฟแนนซ์กดดันหุ้นดิ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาดร่วง -11.23 จุด โบรกฯ เผย หุ้นไทยปรับฐานเหตุกดดันจากหุ้นกลุ่มแบงก์หลังประกาศงบแย่กว่าคาด อีกทั้งยังมีผลต่อความเชื่อมั่นต่อหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ด้วย มองกรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าอาจไม่ขยับมากนัก เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน แนะติดตามประกาศผลประกอบการเพิ่มเติม ประเมินแนวรับที่ 1,665 จุด และแนวต้านที่ 1,690 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 20 ม.ค.2566 ปรับตัวลดลง -11.23 จุด หรือ -0.67% โดยปิดตลาดที่ 1,677.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,365.61 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ดัชนีปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดทำการในภาคเช้าและเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวันจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,688.59 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,672.49 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 452 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 488 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 1,118 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า 5,355.56 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +1,710.97 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -4,191.70 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -2,874.83 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 11,708.02 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 9.00 บาท
2.BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,649.56 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
3.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,446.64 ล้านบาท ปิดที่ 108.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,442.13 ล้านบาท ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
5.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,140.91 ล้านบาท ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.TIPH ปิดที่ 50.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 4.10%
2.FORTH ปิดที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.42%
3.IVLปิดที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.20%
4.EGCOปิดที่ 176.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.28%
5.BANPU ปิดที่ 12.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.25%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 9.00 บาท หรือ 5.86%
2.SAWADปิดที่ 52.75 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 5.38%
3.BBLปิดที่151.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.94%
4.SCBปิดที่108.50 บาท หรือ 2.50บาท หรือ 2.25%
5.MTC ปิดที่39.25 บาท หรือ 2.00 บาท หรือ 4.85 %

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,255.69 จุด ลดลง -17.83 จุด หรือ -0.78% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,001.97 จุด ลดลง -8.34 จุด หรือ -0.83% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 594.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.04 จุด หรือ 0.18%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐาน ปัจจัยกดดันหลักๆ มาจากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ 3 แบงก์ใหญ่อย่าง BBL KBANK SCB กำไรออกมาต่ำกว่าคาดมาก ทำให้ Sentiment ภาพรวมดูไม่ค่อยดี และยังส่งผลกระทบทางจิตวิทยามากลุ่มไฟแนนซ์ด้วย จะเห็นได้ว่าวันนี้ปรับลงไปค่อนข้างมากกว่ากลุ่มแบงก์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อภาพเศรษฐกิจและความเสี่ยงของการเก็บหนี้ภาคธุรกิจ (SME) หลังแบงก์พาณิชย์ต่างตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูง

ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้ามองว่าดัชนีน่าจะแกว่งไซด์เวย์ ช่วงที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียหลายแห่งปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ทำให้ Fund Flow เบาบาง อีกทั้งนักลงทุนยังคงเกาะติดการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อเนื่อง และมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นหลังงบแบงก์ออกมาไม่ค่อยดี โดนประเมินกรอบแนวรับที่ 1,665 จุด และแนวต้านที่ 1,690 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น